สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เผยผลสำรวจเรื่อง "เสียงของสาธารณชนต่อดัชนีความเป็นผู้นำของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และความคิดเห็นต่อปัญหาทุจริตในโครงการชุมชนพอเพียงของรัฐบาล" กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปใน 17 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพฯ เชียงใหม่ เพชรบูรณ์ สุโขทัย อุตรดิตถ์ กาญจนบุรี เพชรบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ปทุมธานี ขอนแก่น ศรีสะเกษ สกลนคร หนองบัวลำภู พัทลุง ระนอง และสุราษฎร์ธานี จำนวน 1,389 ครัวเรือน สำรวจในวันที่ 8 ส.ค.52 โดยกลุ่มตัวอย่างกว่า 80% ติดตามข่าวสารผ่านสื่อมวลชนเป็นประจำ
พบว่าประชาชน เห็นว่า นายอภิสิทธิ์สามารถควบคุมอารมณ์ได้ดีถึงร้อยละ 73.8 ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณนั้น ร้อยละ 45.0 ส่วนเรื่องการเคร่งครัดศีลธรรมผลสำรวจพบว่า ร้อยละ 71.4 ระบุเป็นนายอภิสิทธิ์ ส่วนร้อยละ 61.6 ระบุเป็น พ.ต.ท.ทักษิณ
ส่วนเรื่องการให้เกียรติ แกนนำรัฐบาลด้วยกันพบว่า นายอภิสิทธิ์ให้เกียรติมากกว่าร้อยละ 68.4 ส่วนเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต นายอภิสิทธิ์ ได้ไปร้อยละ 68.2 ส่วน พ.ต.ท ทักษิณ ได้เพียง 40.5 เรื่องความเป็นนักประชาธิปไตยนายอภิสิทธิ์ได้ไป ร้อยละ66.5 ส่วน พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ไปร้อยละ 51.5
เรื่องความเป็นที่ไว้วางใจได้ของประชาชน ร้อยละ 61.4ให้นายอภิสิทธิ์ ร้อยละ 57.9 ให้พ.ต.ท.ทักษิณ เรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ยึดหลักคุณธรรม 54.1% ระบุนายอภิสิทธิ์ 37.7% ระบุ พ.ต.ท.ทักษิณ
ส่วนเรื่องที่ประชาชนเห็นว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ดีกว่า คือ ด้านความรู้ความสามารถ การดึงดูดน่าสนใจมีเสน่ห์ สื่อสารได้ดีกับประชาชนภายในประเทศ และ การเข้าถึงจิตใจของประชาชนได้ทุกระดับชั้น การสื่อสารได้ดีกับนานาประเทศทั่วโลก การบริหารจัดการแบบมืออาชีพ มีความรวดเร็วฉับไวในการแก้ไขปัญหา และมีความเป็นผู้ทรงอิทธิพลต่อกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน
อย่างไรก็ตาม ผลการสำรวจยังระบุเรื่องปัญหาความทุจริตโครงการชุมชนพอเพียง พบว่าประชาชนส่วนใหญ่เกรงว่าปัญหาการทุจริตจะกระทบต่อแนวคิดหลักเศรษฐกิจพอเพียงและต้องการให้รัฐบาลรับผิดชอบต่อปัญหานี้ หาคนผิดมาลงโทษ และให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องลาออกทั้งคณะ