เจ้าหน้าที่ตำรวจของอินโดนีเซียกล่าวว่า อินโดนีเซียอาจจะต้องเผชิญกับการก่อการร้ายตามมาอีกหลายครั้ง ขณะที่ทางการยังคงตรวจพิสูจน์ว่า นูร์ดีน โมฮัมมัด ท็อป จอมบงการของกลุ่มก่อการร้าย และเป็นผู้ต้องสงสัยคนสำคัญในเหตุวางระเบิดโรงแรมหรู 2 แห่ง ในกรุงจาการ์ตาเมื่อเดือนที่แล้วนั้น เป็นหนึ่งในกลุ่มติดอาวุธที่ถูกตำรวจอินโดนีเซียสังหารในระหว่างการยิงปะทะกันเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาหรือไม่
แอนดี มัลลารันเกง โฆษกประธานาธิบดีกล่าวว่า การรักษาความปลอดภัยประธานาธิบดีซูสิโล บัมบัง ยุดโดโยโน ได้รับการเพิ่มระดับ พร้อมระบุว่า "คุณก็เห็นว่าการขู่เข็ญคุกคามเป็นเรื่องจริง อินโดนีเซียและผู้นำประเทศไม่ควรถูกทำลายโดยลัทธิก่อการร้าย การมุ่งทำลายสถาบันหลักของประเทศก็ถือเป็นการทำลายประเทศเช่นกัน"
วานนี้ นานัน ซูการ์นา โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติของอินโดนีเซีย กล่าวว่า ทางการกำลังพยายามที่จะระบุชี้ชัดลงไปให้ได้ว่าชายที่ถูกยิงเสียชีวิตในการดวลปืนระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับกลุ่มก่อการร้ายที่บ้านหลังหนึ่งในจ.ชวากลางเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานั้น ใช่นายนูร์ดีนหรือไม่ ซึ่งคาดว่าจะทราบผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอและผลการตรวจอื่นๆในอีก 2 สัปดาห์
"ถ้านูร์ดีนตายแล้ว ก็ยังมีผู้ก่อการร้ายอยู่อีกเป็นจำนวนมาก ไม่ว่านูร์ดินหรือผู้ก่อการร้ายรายใดก็ถือเป็นศัตรูของเราเหมือนกันหมด" เขากล่าวกับผู้สื่อข่าว
ทั้งนี้ นูร์ดีน ถือสัญชาติมาเลเซีย เป็นหนึ่งในแกนนำก่อการร้ายที่เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเขาเป็นผู้ต้องสงสัยในเหตุการวางระเบิดโรงแรมเจดับบลิว แมริออท และริทซ์ คาร์ลตัน ในกรุงจาการ์ต้าเมื่อวันศุกร์ที่ 17 ก.ค. รวมถึงเหตุระเบิดครั้งใหญ่อีก 4 ครั้งในอินโดนีเซียนับตั้งแต่ปี 2545 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมทั้งสิ้นเกือบ 300 คน