นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตนเองเตรียมทำหนังสืออย่างเป็นทางการถึงนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อขอให้ส่งหลักฐานที่อ้างผ่านสื่อมวลชนว่ามีการซื้อขายตำแหน่งระดับนายพันตำรวจภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) เพื่อนำไปใช้เป็นหลักฐานประกอบในการสืบสวนสอบสวนต่อไป
"วันนี้ผมจะทำหนังสือถึงคุณศิริโชคอย่างเป็นทางการ เพื่อให้ส่งหลักฐานที่เคยบอกว่า มีการซื้อขายตำแหน่ง เพื่อเป็นหลักฐานในการไปสืบสวนสอบสวนต่อไป...ผมตามหาคุณศิริโชคมาสองสัปดาห์แล้วไม่พบจึงทำหนังสืออย่างเป็นทางการ" นายสุเทพ กล่าว
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า การที่นายศิริโชคออกมากล่าวหาว่ามีการซื้อขายตำแหน่งภายใน สตช. ดังนั้นจึงไม่อยากให้มีการกระทบต่อข้าราชการตำรวจทั้งหมด เพราะบางส่วนยังมีตำรวจที่ดี ดังนั้นหากได้หลักฐานจากนายศิริโชคจะนำไปเป็นข้อมูลประกอบ เพื่อสืบหาตัวว่า มีการซื้อขายตำแหน่งกันจริงหรือไม่ และกระแสข่าวการซื้อขายตำแหน่งโดยส่วนตัวไม่ทราบข้อเท็จจจริง เพียงทราบข้อมูลจากสื่อเท่านั้น
"ผมไม่ได้อยู่ใกล้ท่านนายกฯ ที่จะไปคุยอะไรอย่างนั้น...ที่ผมบอกว่าไม่ได้อยู่ใกล้นายกฯ คือไม่ได้คุยเรื่องเล็กน้อยๆ แต่ถ้าเป็นเรื่องใหญ่ๆ ท่านจะสั่งผม" นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพแสดงความมั่นใจว่าจะไม่มีรอยร้าวระหว่างนายกรัฐมนตรีกับฝ่ายกองทัพ หลังสั่งการให้ พล ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ลงปฎิบัติหน้าที่ในพื้นที่ภาคใต้ และยืนยันว่า ความสัมพันธ์กับ พล. อ. ประวิตร วงษ์สุวรรรณ รมว.กลาโหม ยังเป็นไปด้วยดี และส่วนตัวเคารพนับถือกันอยู่แล้ว เพราะท่านถือเป็นผู้ใหญ่ ส่วนการเดินทางไปอวยพรวันเกิด พล.อ.ประวิตร เมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา ไม่ได้คุยเรื่องของ พล ต.อ.พัชรวาท
นอกจากนี้ นายสุเทพยังปฏิเสธข่าวแกนนำพรรคภูมิใจไทยไม่พอใจการทำงานของนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี โดยในช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนเองได้โทรศัพท์ไปสอบถามแกนนำพรรคภูมิใจไทยแล้ว และได้รับการยืนยันว่าภายในพรรคไม่เคยมีการพูดคุยเกี่ยวกับความไม่พอใจการทำงานของนายกอร์ปศักดิ์ แม้แต่นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม และนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ ไม่เคยบ่นถึงความไม่พอใจในการทำงานร่วมกับนายกอร์ปศักดิ์
อย่างไรก็ตาม นายสุทเพ ปฎิเสธตอบคำถามว่า ผู้ที่โทรศัพท์หารือด้วยนั้นเป็นนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย หรือไม่ โดยกล่าวเพียงว่า จะไม่ขอตอบซักเรื่องได้หรือไม่
ส่วนการที่กลุ่มคนเสื้อแดงเตรียมยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 17 ส.ค.นั้น ทางฝ่ายรัฐบาลยังไม่มีการดำเนินการใดๆ เบื้องต้นคงให้ฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าดูแลความสงบเรียบร้อย