นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การที่รัฐบาลได้แต่งตั้ง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี รักษาราชการแทน ผบ.ตร.ที่ลงปฎิบัติหน้าที่ในพื้นที่ภาคใต้ ถือเป็นปรากฎการณ์ประหลาดผิดธรรมชาติในวงราชการ เพราะการแต่งตั้งฝ่ายวิชาการมารักษาราชการแทนนั้นจะทำได้ก็ต่อเมื่อไม่มีฝ่ายบริหารหลงเหลืออยู่แล้ว
ด้านนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากการกระทำดังกล่าวสร้างความหวั่นไหวในวงข้าราชการประจำทุกกระทรวง เนื่องจากนายกรัฐมนตรีได้สร้างบรรทัดฐานธรรมเนียมปฏิบัติที่ผิดเพี้ยน โดยตั้งผู้มารักษาราชการแทนตามใจชอบ ไม่ยึดระเบียบธรรมเนียมปฏิบัติที่มีมาเป็นร้อยปี เพราะการแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนจะกระทำได้เมื่อเจ้าของตำแหน่งไม่อยู่ และจะมีการแต่งตั้งโดยเรียงลำดับอาวุโส
"วันหนึ่งอาจจะโดนเข้ากับกระทรวงของตัวเองก็ได้ ในการแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทน...ที่ทำอยู่ขณะนี้ไม่ปกติ ไม่เคยเกิดขึ้นในระบบราชการไทย ที่สำคัญแม้จะมีตำแหน่งรักษาราชการแทน แต่เจ้าของตำแหน่งตัวจริง ยังมีอำนาจสั่งการได้ ไม่ใช่หมดอำนาจไป ทำเหมือนกับว่าผลัดกันเป็นนาย ผลัดกันเป็นลูกน้อง เป็นบรรทัดฐานใหม่ที่น่าตลก" นายปลอดประสพ กล่าว
รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวอีกว่า การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจมีข้อระบุชัดว่าไม่ให้ฝ่ายการเมืองเข้ามายุ่ง นอกจากขั้นตอนของการอนุมัติผ่านครม. หากมีการแทรกแซงสามารถถูกฟ้องร้องศาลปกครองได้ ดังนั้น จึงขอเตือนนายกรัฐมนตรี หรือ บุคคลใด อย่าเข้าไปเกี่ยวข้องเพราะอาจจะถูกถอดถอนได้
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนเองพร้อมทนายความ เตรียมยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต. ) วันพรุ่งนี้ (14 ส.ค.53) เวลา 13.30 น. ขอให้ตรวจสอบและส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นนายกรัฐมนตรีของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สิ้นสุดลง เนื่องจากกรณีมีคำสั่งแต่งตั้ง ผู้รักษาราชการแทนในตำแหน่งผบ.ตร.โดยมิชอบ ขัดต่อ ม. 72 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ปี 2547
และกรณีที่นายสุเทพ มีคำสั่งให้ ผบ.ตร. ปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีเจตนาก้าวก่ายแทรกแซงในการบรรจุแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ เป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ประกอบ ม. 268 ทำให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพต้องสิ้นสุดลงตาม ม. 182 (7)
"เรื่องนี้จึงเห็นได้ว่าน่าจะมีวาระซ่อนเร้นแอบแฝงทางการเมือง มีการวางแผนหักเหลี่ยมเฉือนคมกันอย่างชัดเจนเพื่อชิงความได้เปรียบในการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ วันนี้เมืองไทยเหมือนมีผบ.ตร. 2 คน ต่อไปหากนายกฯเดินทางไปต่างจังหวัดก็ต้องตั้งรักษาการนายกฯเหมือนกรณีนี้ด้วยหรือไม่ เมืองไทยคงสนุก เพราะความเป็นนายกฯจะทำอะไรก็ได้ นี่คือการบริหารแบบนายกฯ แบทแมน ห้อยหัวมาแล้วค่อยใช้ความคิดแบบผิดธรรมชาติ " นายพร้อมพงศ์ กล่าว