นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่(ก.ม.ม.) ชี้ การเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้กลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองในระหว่างวันที่ 25 พ.ค.-3 ธ.ค.51 และระหว่างวันที่ 26 มี.ค.-14 เม.ย.52 ของพรรคภูมิใจไทย(ภท.) มีวาระซ่อนเร้น หวังไต่ระดับนิรโทษกรรมนักการเมืองและข้าราชการลิ่วล้อ แนะหากต้องการสมานฉันท์จริงขอให้เสนอร่าง พ.ร.บ.ลากตัวนักโทษหนีคดีมารับโทษ
"การเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของพรรคภูมิใจไทยเป็นเจตนาที่น่าจะมีวาระซ่อนเร้นมากกว่าต้องการความสมานฉันท์อย่างแท้จริง เพราะในสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้หวังนิรโทษกรรมให้กับเจ้าหน้าที่ทั้งข้าราชการประจำและข้าราชการการเมืองที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ด้วย ซึ่งเป็นการเหวี่ยงแหโดยไม่จำแนกแยกแยะ"นายสุริยะใส กล่าว
พร้อมเห็นว่า ผลของกฎหมายฉบับนี้จะทำให้มีการนิรโทษกรรมผู้ที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามประชาชนในเหตุการณ์ 7 ต.ค.51 และกรณีที่ข้าราชการเมืองและข้าราชการประจำกว่า 40 คน ที่คบคิดกันยกปราสาทพระวิหารให้กับประเทศกัมพูชา ซึ่งกลุ่มพันธมิตรฯ ได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ให้ไต่สวนและกำลังจะชี้มูลความผิดเร็วๆ นี้แล้ว
นายสุริยะใส กล่าวว่า หากพรรคภูมิใจไทยอยากเห็นความสมานฉันท์จริง ควรเสนอร่างกฎหมายพิเศษเพื่อดำเนินคดีกับนักโทษที่หนีคดีหนีคำพิพากษาไปอยู่ต่างประเทศ หรือไม่ก็ออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับเกษตรกรคนยากคนจนน่าจะดีกว่า เพราะถ้าร่างกฎหมายนี้ผ่านสภาฯ จะยิ่งเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรมของประเทศและสร้างแบบอย่างไม่ดีให้กับคนผิด ที่เมื่อทำผิดแล้วก็มาออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้ตัวเองหรือพวกพ้อง
"คดีความของแกนนำพันธมิตรฯ นั้น พวกเราไม่เคยวิตกกังวล เพราะเรามั่นใจในความบริสุทธิ์ใจและการเคลื่อนไหวที่ผ่านมาที่เคร่งครัดในรัฐธรรมนูญและแนวทางสันติวิธี และทำเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของสาธารณะ โดยเฉพาะการคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่เคลื่อนไหวเพื่ออคนๆ เดียว" ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าว และพร้อมน้อมรับคำพิพากษาของศาลหากตัดสินให้มีความผิด โดยยืนยันจะไม่มีการถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)กล่าวว่า การเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวถือเป็นพฤติกรรมที่น่าห่วง เพราะเป็นการกระทำที่ขัดแย้งกันเอง และขณะนี้กระทรวงมหาดไทยยังมีการตั้งโต๊ะล่ารายชื่อคัดค้านการถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายรัฐมนตรีอยู่ อีกทั้งคดีของกลุ่มนปช.และกลุ่มพันธมิตรฯ ก็มีความแตกต่างกันจะมาเสนอให้แลกกันไม่ได้ ยืนยันว่าไม่ประสงค์ที่จะเอาประโยชน์จากการนิรโทษกรรมที่มีเงื่อนไข
นายจตุพร กล่าวด้วยว่า รัฐบาลไม่สามารถจะระงับการถวายฎีกาของกลุ่มเสื้อแดงได้ เพราะจะถือว่าเป็นการใช้อำนาจของพระมหากษัตริย์ ทั้งนี้มองว่ารัฐบาลพยายามดึงเวลาเรื่องการถวายฎีกาเพื่อกลบเรื่องการบริหารประเทศล้มเหลว อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลไม่เห็นด้วยก็สามารถแสดงความเห็นว่าไม่เห็นด้วยในแบบแนบท้ายฎีกาได้ แต่ขั้นตอนทุกอย่างจะต้องดำเนินต่อไป
ทั้งนี้ มีแนวคิดต่อไปว่าอาจจะมีการล่ารายชื่อประชาชนเพื่อถอดถอนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี รวมทั้งสร้างรูปแบบของการชุมนุมแบบใหม่ โดยดึงเอาพี่น้องเกษตรกรเข้ามาร่วมกับการชุมนุมด้วย โดยจะมีการหารือกับแกนนำในเรื่องนี้อีกครั้ง