การเลือกตั้งประธานาธิบดีและสภาจังหวัดของอัฟกานิสถานได้เริ่มต้นขึ้นแล้วเช้าวันนี้ ภายใต้การรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดในทั้ง 34 จังหวัดของประเทศ
ในบรรดาผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่เหลืออยู่ 32 คนนั้น ปรากฏว่านายฮาร์มิด คาร์ไซ ประธานาธิบดีคนปัจจุบันเป็นตัวเก็งที่จะคว้าชัยในการเลือกตั้งครั้งนี้ หลังจากที่ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดชี้ว่านายคาร์ไซได้รับคะแนนนิยมสูงสุดที่ 44% ขณะที่คู่แข่งคนสำคัญอย่าง ดร.อับดุลเลาะห์ อับดุลเลาะห์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศในรัฐบาลนายคาร์ไซ ได้รับคะแนนไป 26%
ในการเลือกตั้งครั้งนี้ มีชาวอัฟกันที่มีสิทธิลงคะแนนราว 17 ล้านคน แต่คาดว่าจำนวนผู้ออกไปใช้สิทธิจะน้อยกว่าการเลือกตั้งในปี 2547 เนื่องจากสถานการณ์ความไม่ปลอดภัยที่เลวร้ายลงเรื่อยๆในหลายพื้นที่ของประเทศ โดยมีศูนย์เลือกตั้งอยู่เกือบ 7,000 แห่ง และคูหาลงคะแนนอีกราว 29,000 แห่งทั่วประเทศ แต่คูหาเลือกตั้งหลายร้อยแห่งอาจจะต้องถูกปิดด้วยเหตุผลเรื่องความไม่ปลอดภัย
โมฮัมหมัด ฮานิฟ อัทมาร์ฮี รมว.มหาดไทยเผยว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ จะมีอยู่ 8 เขตจากทั้งหมด 364 ที่ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ เนื่องจากเขตดังกล่าวยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของตาลีบัน
คณะกรรมการเลือกตั้งของอัฟกานิสถานกล่าวว่า จะสามารถประกาศผลการนับคะแนนเบื้องต้นได้หลังปิดหีบเลือกตั้งแล้ว 48 ชั่วโมง ขณะที่ผลการเลือกตั้งขั้นต้นจะประกาศให้ทราบในวันที่ 3 ก.ย. และการประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการจะมีขึ้นในวันที่ 17 ก.ย.
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นบททดสอบนโยบายอัฟกานิสถานของรัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ซึ่งได้ส่งทหารอีก 30,000 นายไปยังอัฟกานิสถาน ซึ่งทำให้สหรัฐมีทหารประจำการในอัฟกานิสถานเพิ่มเป็น 63,000 นายจากจำนวนทหารต่างชาติทั้งหมดรวม 100,000 นาย
เมื่อวานนี้ กองทัพสหรัฐเผยว่า มีทหารสหรัฐ 6 นายเสียชีวิตในเหตุโจมตีต่างๆ ส่งผลให้จำนวนทหารอเมริกันที่เสียชีวิตในเดือนนี้เพิ่มขึ้นเป็น 32 นายแล้ว หลังจากที่ในเดือนก่อนมีทหารอเมริกันเสียชีวิต 44 นายซึ่งถือเป็นเดือนที่มีทหารอเมริกันเสียชีวิตมากสุดนับตั้งแต่ปี 2544
ทั้งนี้ ทางการอัฟกานิสถานต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดมากขึ้น หลังจากที่กลุ่มติดอาวุธต่างๆได้ประกาศจะขัดขวางการเลือกตั้งในวันนี้ ด้วยการก่อเหตุโจมตีหลายครั้งในเดือนนี้ โดยในวันพุธ ได้เกิดเหตุกลุ่มติดอาวุธบุกเข้าไปในธนาคารแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่กลางกรุงคาบูลและได้ปะทะกับตำรวจเป็นเวลานานหลายชั่วโมง ซึ่งนับเป็นเหตุการณ์โจมตีรุนแรงครั้งที่ 3 ในรอบสัปดาห์ในกรุงคาบูล หลังจากที่เพิ่งเกิดเหตุกองกำลังติดอาวุธยิงจรวดเข้าไปยังทำเนียบประธานาธิบดีเมื่อวันอังคาร และเหตุระเบิดพลีชีพรถยนต์ที่หน้าสำนักงานใหญ่องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) เมื่อวันเสาร์