นายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย(พท.)ระบุว่า แม้เจตนาการเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของพรรคภูมิใจไทย(ภท.)จะต้องการให้เกิดความปรองดองและสมานฉันท์ขึ้นแก่คนทุกกลุ่มนั้น แต่เชื่อว่าเรื่องนี้มีวาระซ่อนเร้น และเห็นว่าการออกกฎหมายไม่ใช่ทางออกของการแก้ปัญหา แต่เป็นเหมือนการตัดตอนทางประวัติศาสตร์ ซึ่งจะยิ่งสร้างปัญหาเพิ่มมากขึ้น
โดยเห็นว่าหากพรรคภูมิใจไทยมีเจตนาแท้จริงจะต้องการให้เกิดความสมานฉันท์ก็ควรผลักดันให้เรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติ และให้มีเวทีที่ทุกฝ่ายได้แสดงความคิดเห็นร่วมกัน รวมทั้งจะต้องแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 50 ในมาตรา 299 ที่เกี่ยวข้องในการรักษาอำนาจของ 9 องค์กรที่เกี่ยวข้องในรัฐธรรมนูญให้ครบคลุม เพราะถือเป็นหัวใจของความขัดแย้งทั้งกลุ่มเสื้อเหลืองและเสื้อแดงที้ล้วนแต่เป็นผลพวงจากการปฎิวัติทั้งสิ้น
"หากต้องการให้เกิดความสามัคคีสมานฉันท์ที่แท้จริง ทำไมถึงไม่หารือพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นแกนนำรัฐบาลก่อนเสนอ ซึ่งควรพูดคุยในพรรคร่วมรัฐบาลและวุฒิสภา ถ้าสองฝ่ายเห็นด้วย แม้ฝ่ายค้านไม่เห็นด้วย ก็เชื่อว่ากฎหมายเกิดขึ้นได้ แต่หากพรรคประชาธิปัตย์ไม่เอาด้วยก็เป็นไปได้ยาก ดังนั้นหากมีความจริงใจมีเจตนาที่แก้ปัญหา ต้องเสนอให้เป็นวาระแห่งชาติ ให้มีเวทีพูดคุยกันจากทุกหลายให้เกิดความเข้าใจเสียก่อน" นายสงวน กล่าว
ส.ส.ลำพูน ยังตั้งข้อสังเกตว่าการที่พรรคภูมิใจไทยประกาศเสนอกฎหมายนี้เพื่อต้องการให้เกิดความสงบ สามัคคี สันติ แต่กลับตั้งโต๊ะล่าชื่อประชาชนคัดค้านการถวายฎีกาของคนเสื้อแดง ทั้งที่เป็นการเข้าชื่อถวายฎีกาเพื่อหาทางออกให้ประเทศซึ่งสูงกว่ากฎหมายนิรโทษกรรม