นักศึกษาหลักสูตรการพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง(พตส.)รุ่น1 นำโดย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธานคมช.ในฐานะประธานรุ่น, นายวัชระ กรรณิกา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนา, นายปานเทพ พงษ์พัวพันธ์ สมาชิกพรรคการเมืองใหม่, นายมุข สุไลมาน สมาชิกพรรคมาตุภูมิ พร้อมด้วยนายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)และคณะนักศึกษา พตส.เดินทางมาเยี่ยมชมที่ทำการพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในหลักสูตรดังกล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวบรรยายการเมืองและยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยว่า เชื่อว่าไม่เกินเดือนมี.ค.-เม.ย.53 จะมีการเลือกตั้งใหม่จาก 3 เหตุผล คือ รัฐบาลแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้, ไม่สามารถแก้ปัญหา3 จังหวัดชายแดนใต้ได้ และพรรคร่วมรัฐบาลอยู่ในฐานะไม่เกรงใจ เห็นได้จากการเลือก ผบ.ตร.คนใหม่ ที่ รมว.มหาดไทย เห็นไม่ตรงกันกับนายกรัฐมนตรี
การเลือกตั้งครั้งหน้าที่จะเกิดขึ้น พรรคได้เตรียมวางแนวนโยบายหาเสียงสำหรับการแก้ไขปัญหาของประเทศไว้ 5 ด้าน คือ ปัญหาการเมือง, สังคม, เศรษฐกิจ, พลังงาน และการพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งพรรคเพื่อไทยพร้อมชิงที่นั่ง ส.ส. 137 คนในพื้นที่ภาคอีสาน 19 จังหวัด แต่มีปัญหาอยู่จังหวัดเดียวคือบุรีรัมย์
"ภาคอีสาน 19 จังหวัด 137 ที่นั่ง เราพร้อม มีปัญหาอยู่ที่เดียว จ.บุรีรัมย์ ทุกพื้นที่เราพร้อมลงไปปราศรัยยึดแนวทางล้างหนี้ประเทศ เอาความสุขประชาชนคืนมา จะไม่โจมตีผู้สมัคร พรรคคู่แข่ง...ขณะนี้เขียนแผนรณรงค์หาเสียง 7แผน 4 ปรับ 3 หลัก 6 เร่ง เตรียมเสนอต่อพรรคก่อน ไม่รู้ว่าเห็นด้วยหรือไม่ ถ้าเห็นด้วยก็เริ่มเลย" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
พร้อมระบุว่า หากการเลือกตั้งสมัยหน้าพรรคเพื่อไทยแพ้พรรคประชาธิปัตย์อีก ทางพรรคก็พร้อมจะเป็นฝ่ายค้าน แต่ทั้งนี้ก็ยังมั่นใจว่าเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคเพื่อไทยจะได้ที่นั่ง ส.ส.มากกว่าครั้งนี้
สำหรับในช่วงการซักถามนั้นนายปานเทพ ถามว่าวันนี้มีคนสนับสนุนและไม่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ แต่การหาเสียงของพรรคเพื่อไทย เหตุใดยังชูภาพ พ.ต.ท.ทักษิณ เหมือนเดิม ทำไมพรรคเพื่อไทยไม่พัฒนาไปสู่สถาบันการเมืองโดยไม่อิงกับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ซึ่งร.ต.อ.เฉลิมตอบว่า พรรคการเมืองแต่ละพรรคมีปฐมบทที่มาแตกต่างกัน เหมือนเช่นพรรคประชาธิปัตย์ที่เมื่อไปหาเสียงทางใต้ หากไม่บอกว่าเป็นลูกศิษย์นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รับรองว่าแพ้ทุกคน ดังนั้นการเคารพบุคคลที่มีความสำคัญทางการเมืองถือเป็นสิ่งสำคัญ
"ช่วงเป็นพรรคไทยรักไทยนั้นคนนำพรรค แต่เมื่อเปลี่ยนมาเป็นพรรคเพื่อไทย พรรคมีแนวคิดอยากให้พรรคนำคน แต่อยู่ในขั้นตอนเท่านั้น...การพูดถึงพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นวิธีในการหาเสียง แต่การจะเปลี่ยนต้องค่อยเป็นค่อยไป เลือกตั้งรอบหน้าถ้าชนะเกินครึ่งก็ไม่ต้องเอ่ยชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ได้ แต่เวลานี้ไม่เอ่ยไม่ได้ คงไม่มีใครฟัง" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
นายปานเทพ ยังตั้งคำถามถึงจุดยืนของพรรคเพื่อไทยต่อร่าง พ.ร.บ.ว่างด้วยความปรองดองแห่งชาติ และร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ร.ต.อ.เฉลิม ตอบว่า พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่พรรคภูมิใจไทยเป็นผู้เสนอนั้น เชื่อว่าหากมีการโหวตในสภาฯจะแพ้แน่นอน เพราะพรรคเพื่อไทยก็ไม่เห็นด้วย
"ส่วนตัวเห็นว่าเป็นการออกมาในลักษณะเหวี่ยงแหเป็นกลุ่ม ไม่ชัดเจน คนออกยังไม่รู้ว่าจะเสนอเพื่ออะไร พรรคเพื่อไทยถ้าโหวตก็ไม่เห็นด้วย แต่อาจไม่ทั้ง 187คน" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว