นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คณะกรรมการเลือกตั้ง(กกต.)กล่าวว่า ที่ประชุม กกต.วันนี้ยังไม่ลงมติชี้ขาดกรณีเงินบริจาคของพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)จำนวน 258 ล้านบาท และการใช้เงินกองทุนพัฒนาพรรคการเมืองที่ได้รับสนับสนุนจาก กกต.จำนวน 29 ล้านบาทผิดวัตถุประสงค์ เนื่องจากยังมีข้อมูลไม่ชัดเจนอีกหลายประเด็น อีกทั้งการสอบสวนพยานบุคคลและพยานเอกสารยังไม่ครบถ้วน เนื่องจากมีรายละเอียดจำนวนมาก เช่น เอกสารจากกรมสรรพากร
ดังนั้น ที่ประชุมฯ จึงส่งสำนวนกลับไปให้อนุกรรมการไต่สวนฯ ดำเนินการสอบสวนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ปชป และนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ อดีตผู้บริหาร บมจ.อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย(TPI)เพิ่มเติม โดยขยายเวลาออกไปอีก 30 วัน
ก่อนหน้านี้ นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านกิจการสืบสวนสอบสวน ออกมาระบุว่า หลังจากประธาน กกต.ได้แจกสำนวนคดีดังกล่าวให้ไปศึกษาเมื่อสัปดาห์ก่อน ส่วนตัวอ่านสำนวนแล้วพบว่ายังมีหลายประเด็นที่ยังไม่ชัดเจน
ส่วนกรณีการถือครองหุ้นในกิจการสื่อและบริษัทที่รับสัมปทานจากรัฐของ ส.ส.ทั้ง 44 คนนั้น ฝ่ายเลขานุการอนุกรรมการไต่สวนฯ ได้เสนอรายงานให้ที่ประชุมฯ แล้ว และนัดชี้แจงเอกสารในวันพรุ่งนี้(26 ส.ค.) ซึ่งที่ประชุม กกต.จะนัดพิจารณากรณีดังกล่าวอีกครั้งในวันที่ 2 ก.ย.นี้ และในวันดังกล่าวยังนัดพิจารณากรณีที่นายเรื่องไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ร้องขอให้ตรวจสอบการถือครองหุ้นของนายถวาร เสนเนียม รมช.มหาดไทย และนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ ด้วย