นายกรัฐมนตรีทาโร่ อาโสะ ของญี่ปุ่น เตรียมเจอศึกหนักอีกครั้ง เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่จะมีการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ หรือ 2 วันก่อนการเลือกตั้ง ส่อเค้าว่าจะทำให้คะแนนนิยมของเขาลดลงอีก ซึ่งอาจส่งผลให้พรรคแอลดีพีของเขาหลุดจากการครองอำนาจในรัฐบาลที่ยาวนานกว่าครึ่งศตวรรษในที่สุด
โดยข้อมูลเศรษฐกิจที่จะได้รับการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้คืออัตราว่างงานเดือนกรกฎาคมและดัชนีราคาผู้บริโภค ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าอัตราว่างงานจะพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 5.5% ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคไม่นับรวมอาหารสดอาจร่วงหนักถึง 2.2%
เคียวเฮย์ โมริตะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก บาร์เคลย์ส แคปิตอล ในโตเกียว กล่าวว่า ผลสำรวจหลายสำนักต่างชี้ตรงกันว่าพรรคฝ่ายค้านดีพีเจมีคะแนนนิยมนำพรรคแอลดีพีในการเลือกตั้งวันที่ 30 สิงหาคมนี้ เนื่องจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่พอใจวิธีบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาล ซึ่งตัวเลขเศรษฐกิจในวันพรุ่งนี้จะยิ่งตอกย้ำความล้มเหลวของรัฐบาล และเป็นแรงหนุนให้กับพรรคฝ่ายค้าน
"พรุ่งนี้จะมีการรายงานภาวะเงินฝืดและอัตราว่างงานที่พุ่งสูงกันอย่างกว้างขวาง ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่นักการเมืองต้องการก่อนการเลือกตั้งอย่างแน่นอน" โมริตะ กล่าว
อย่างไรก็ตาม โยชิมาสะ ฮายาชิ รัฐมนตรีเศรษฐกิจและนโยบายการเงิน แสดงความเชื่อมั่นว่าข้อมูลเศรษฐกิจในวันพรุ่งนี้จะไม่มีผลต่อการเลือกตั้ง พร้อมกล่าวว่า "เราจะนำเสนอนโยบายของเราต่อไปให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ และเราจะสู้จนกว่าจะถึงนาทีสุดท้าย"
ทั้งนี้ ผลสำรวจของสำนักข่าวเกียวโดเผยว่า พรรคดีพีเจอาจชนะการเลือกตั้งด้วยที่นั่งเกิน 300 ที่นั่ง จากทั้งหมด 480 ที่นั่งในสภาล่าง ในขณะเดียวกันพรรคดีพีเจก็ครองเสียงข้างมากในสภาสูงอยู่แล้ว สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน