พรรคฝ่ายค้านญี่ปุ่นให้สัญญาหั่นงบด้านโครงสร้างพื้นฐานหากชนะเลือกตั้ง

พรรคฝ่ายค้านญี่ปุ่นให้คำมั่นว่าจะลดงบประมาณด้านการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานหากชนะการเลือกตั้งในวันที่ 30 สิงหาคมนี้ แม้ว่านโยบายดังกล่าวอาจทำได้ยาก เนื่องจากการก่อสร้างเป็นแหล่งสร้างงานและแหล่งระดมทุนทางการเมืองมากเป็นอันดับ 5 ของประเทศ

โดยงบประมาณก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานอย่างเขื่อน ถนน และสะพาน มีมูลค่าสูงถึง 4.4% ของจีดีพีในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่หนุนให้หนี้สาธารณะของประเทศสูงเกือบ 2 เท่าของจีดีพี หรือมากถึง 175,000 ดอลลาร์ต่อครัวเรือน

พรรคดีพีเจกล่าวว่า งบประมาณส่วนมากในการก่อสร้างตกไปอยู่ในมือของบริษัทก่อสร้าง ข้าราชการในท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่รัฐ ส่วนประชาชนกลับไม่ได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง ดังนั้นทางพรรคจึงต้องการลดค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างลง

"ญี่ปุ่นชอบสร้างโครงการใหญ่ ทางด่วนขนาดใหญ่ เขื่อนใหญ่ อุโมงค์ใหญ่" ยาสุโอะ ทานากะ ผู้ว่าการจังหวัดนากาโนะจากพรรคดีพีเจ ซึ่งยกเลิกโครงการสร้างโครงสร้างพื้นฐานไปหลายโครงการ กล่าว "นักการเมืองปล่อยให้ข้าราชการในท้องถิ่นผลาญเงินไปกับโครงการเหล่านี้อย่างไร้ประโยชน์ เราต้องเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านี้โดยด่วน"

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นมีแม่น้ำสายหลัก 113 สาย แต่มีเพียง 3 สายที่ไหลโดยไม่ถูกขวางกั้น นั่นเป็นผลของการสร้างเขื่อนอย่างบ้าคลั่งเพียงเพื่อให้เกิดการจ้างงานโดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยที่แท้จริง ในขณะเดียวกันอุโมงค์และสะพานโตเกียว เบย์ อควอไลน์ มูลค่ากว่า 1.44 ล้านล้านเยน (1.53 หมื่นล้านดอลลาร์) ก็มีรถราใช้งานเพียง 22,000 คันต่อวัน จากที่เคยคาดไว้ว่าจะมีมากถึง 33,000 คัน สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน