ที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ซึ่งมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน อนุมัติใช้กำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจำนวน 37 กองร้อย เพื่อควบคุมสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดงที่นัดชุมนุมใหญ่ขับไล่รัฐบาลในวันที่ 30 ส.ค.นี้ โดยเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้านนอกสถานที่ราชการจะมีเพียงโล่ กระบอง และอุปกรณ์ควบคุมฝูงชนเท่านั้น จะไม่มีการพกพาอาวุธอื่นเพิ่มเติม
โดยวันนี้ที่ประชุมฯ ได้หารือผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติเพื่อให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร ในพื้นที่เขตดุสิต ระหว่างวันที่ 29 ส.ค.-1 ก.ย.52
สำหรับแผนปฏิบัติการจะมี 2 ขั้นตอน คือ ขั้นป้องกันเหตุรุนแรง และขั้นคลี่คลายสถานการณ์ โดยขั้นป้องกันเหตุรุนแรงจะมีการตั้งด่านจุดตรวจและจัดสายตรวจป้องกันการพกพาอาวุธ ป้องกันการเผชิญหน้าของกลุ่มมวลชนต่างๆ และพร้อมเข้าระงับยับยั้งหากเกิดเหตุรุนแรง โดยห้ามประชาชนสัญจรใน 3 เส้นทาง คือ ถนนนครปฐม ตั้งแต่แยกเทวกรรมจนถึงสะพานชมัยมรุเชษฐ, ถนนลูกหลวง ตั้งแต่แยกเทวกรรมจนถึงจุดตัดถนนราชดำเนินนอก พร้อมทั้งทางคู่ขนานถนนราชดำเนินนอกฝั่งติดรั้วทำเนียบรัฐบาล
ส่วนขั้นคลี่คลายสถานการณ์ หากกลุ่มผู้ชุมนุมสร้างสถานการณ์รุนแรงหรือฝ่าฝืนข้อห้ามต่างๆ จะใช้มาตรการตามหลักสากลจากเบาไปหาหนัก ควบคู่กับการชี้แจงการปฏิบัติการทุกขั้นตอน ซึ่งหากมีผู้ฝ่าฝืนหรือผู้ยุยงให้เกิดการฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท