สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รัฐบาลจีนเรียกร้องให้พม่ายุติการสู้รบกับชนกลุ่มน้อยบริเวณแนวชายแดน ซึ่งส่งผลให้มีผู้อพยพหนีข้ามมายังฝั่งจีนนับหมื่นคน
เจียง หยู โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวว่า "จีนหวังว่าพม่าจะจัดการแก้ปัญหาภายในประเทศด้วยวิธีการที่เหมาะสมเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณชายแดนที่ติดกับจีน"
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในเดือนนี้ ผู้อพยพจำนวนมากได้ข้ามจากเขตโกก้าง ในรัฐฉาน ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศพม่า เข้าไปในเขตหนานซัน มณฑลยูนนานทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน หลังจากที่เกิดการสู้รบระหว่างกองกำลังของรัฐบาลพม่ากับชนกลุ่มน้อยในพื้นที่ดังกล่าว
กลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนของสหรัฐเผยว่า กองทัพพม่าได้ส่งกำลังทหารเข้าประจำการในพิ้นที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่ของชาวจีนกลุ่มน้อยในพม่าจำนวนมาก ขณะที่ ยูนนาน เดลี่ รายงานว่า ทางจีนได้ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ด้วยการจัดหาที่พักและสิ่งของจำเป็นพื้นฐาน รวมถึงให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์
ส่วนไชน่า เดลี่ รายงานว่า สถานการณ์ตึงเครียดได้เริ่มปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม หลังจากที่รัฐบาลทหารพม่าได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ 30 นายเข้าไปในโรงงานซ่อมอาวุธแห่งหนึ่งในเขตโกก้าง เพราะสงสัยว่าโรงงานดังกล่าวถูกใช้เป็นสถานที่ผลิตยาเสพติด
โกลบัล ไทม์ส หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษในกรุงปักกิ่ง รายงานว่า จีนได้เพิ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาวุธประจำการบริเวณแนวชายแดนเพื่อป้องกันความขัดแย้งข้ามฝั่งมายังจีน
ทั้งนี้ ชาวบ้านส่วนใหญ่ในเขตโกก้างเป็นชาวจีนฮั่นซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่นี้มานับร้อยปีแล้ว และยังคงมีความสัมพันธ์กับจีน ไม่ว่าจะเป็นการใช้เงินหยวนสำหรับซื้อขายสินค้าในหมู่ชาวบ้าน หรือแม้แต่โทรศัพท์ในเขตโกก้างก็ใช้รหัสพื้นที่เดียวกับที่ใช้ในมณฑลยูนนาน
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า การหลั่งไหลของผู้อพยพได้กดดันจีนซึ่งเป็นพันธมิตรกับรัฐบาลทหารพม่าต้องมาอยู่ในจุดที่ลำบาก
"เรื่องนี้เป็นเรื่องภายในประเทศของพม่า แต่ขณะเดียวกันมันก็เกี่ยวข้องกับชนกลุ่มน้อยชาวจีนจำนวนมาก" เหอ เฉิงต้า รองประธานวิทยาลัยสังคมศาสตร์ยูนนานกล่าว "จีนคงจะไม่ทนให้รัฐบาลทหารพม่าขับไล่ผู้อพยพข้ามชายแดน"