เอกชนคลายกังวลเสื้อแดงเลื่อนชุมนุมและไม่อยากให้มีการชุมนุมอีก

ข่าวการเมือง Saturday August 29, 2009 14:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงเลื่อนการชุมนุมออกไปว่า นับเป็นข่าวดีที่ช่วยให้ความกังวลใจของนักธุรกิจและนักอุตสาหกรรมที่เกรงว่าจะเกิดการปะทะกันมีการใช้ความรุนแรงหมดไป เพราะการที่รัฐบาลประกาศใช้พระราชบัญญัติความมั่นคงบางพื้นที่ ซึ่งกำหนดที่เขตดุสิตทำให้มีความกังวลว่าอาจเกิดความรุนแรงขึ้นได้ สำหรับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง หากเป็นการชุมนุมเพื่อแสดงจุดยืนและเหตุผล และมีการสลายตัวไปโดยไม่เกิดความรุนแรง จะเป็นการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยที่นักธุรกิจ นักอุตสาหกรรม และต่างประเทศยอมรับตามระบอบประชาธิปไตย

ทั้งนี้ จากการได้จัดทำดัชนีอุตสาหกรรมพบว่าหลายอุตสาหกรรมฟื้นตัวดีขึ้น ประกอบกับการที่รัฐบาลเดินหน้าแผนกระตุ้นเศรษฐกิจตามโครงการไทยเข้มแข็ง และหากสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วก็จะส่งผลดีต่อการจ้างงานในประเทศและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ส.อ.ท.เชื่อว่าจากภาวะเศรษฐกิจครึ่งปีแรกติดลบต่อเนื่องมาตั้งแต่ไตรมาสแรก และไตรมาส 2 เฉลี่ยรวมกันยังติดลบถึงร้อยละ 6 แม้เศรษฐกิจจะกระเตื้องขึ้นได้ในช่วงไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4 อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยทั้งปีก็ยังคงติดลบที่ประมาณร้อยละ 3-4

ด้านนายพรศิลป์ พัชริทร์ตนะกุล รองเลขาธิการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หากการชุมนุมไม่เกิดขึ้นสักระยะหนึ่ง ก็จะช่วยส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในภาพรวมเพราะเหตุผลการชุมนุมในขณะนี้ ไม่น่าจะมีน้ำหนักเพียงพอ ประกอบกับช่วงนี้เศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัวดีขึ้น หากเป็นไปได้ไม่ต้องการให้มีการชุมนุมเกิดขึ้น

ทั้งนี้มองว่า หากมีการชุมนุมทางการเมือง ก็จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจโดยจะเห็นได้จากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ไม่มีการลงทุนเกิดขึ้น ประกอบกับเศรษฐกิจก็ไม่ค่อยดี ซึ่งขณะนี้ ลำพังเพียงการขับเคลื่อนผ่านนโยบายไทยเข้มแข็งของรัฐบาล ก็ไม่เพียงพอ ดังนั้นจึงเหลือแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่เหลืออยู่ส่วนเดียว คือการลงทุนภาคเอกชน หากมีการชุมนุมเกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อความมั่นใจ ทำให้ชะลอการลงทุนออกไปการลงทุน โดยภาคเอกชนที่หวังว่า จะลงทุนตามการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลก็จะไม่เกิดขึ้น

นายพรศิลป์ กล่าวอีกว่า หากพิจารณาตัวเลขการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) จะพบว่าช่วงก่อนหน้านี้ เอกชนขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอสูงถึง ระดับ 4-5 แสนล้านบาท แต่ปีที่ผ่านมาลดลงเหลือประมาณ 2 แสนล้านบาท เท่านั้น หายไปถึงร้อยละ 50 และยิ่งหากเกิดความไม่มั่นใจ ก็จะยิ่งทำให้การลงทุนจริงต่ำกว่าที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุนเอาไว้ลงไปอีก ดังนั้น การไม่มีการชุมนุมทางการเมืองสักระยะหนึ่งได้ ก็จะช่วยเศรษฐกิจไทยให้ดีขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ