นสพ.ไชน่า เดลี่ ได้เขียนลงในบทบรรณาธิการวันนี้ว่า ยูคิโอะ ฮาโตยามะ วัย 62 ปี หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยแห่งญี่ปุ่น หรือ ดีพีเจ ที่เพิ่งชนะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา และจะได้ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่นนั้น ควรจะดำเนินการในประเด็นที่สร้างความกังวลให้กับจีนอย่างเหมาะสม เช่น กรณีหมู่เกาะเชนกากุในภาษาญี่ปุ่นหรือเตียวหยู่ในภาษาจีนในทะเลตะวันออก ทิบเต ซินเจียง และไต้หวัน
ในขณะที่จีนขานรับจุดยืนของนายฮาโตยามะที่บอกว่าจะไม่ไปสักการะศาลเจ้ายาสุคูนิในกรุงโตเกียวนั้น แต่จีนก็มองว่า จุดยืนดังกล่าวคงจะไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะช่วยให้ความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีจะรายรื่นไปโดยตลอด เนื่องจากยังมีประเด็นอื่นๆค้างคาอยู่อีก ไม่ว่าจะเป็นหมู่เกาะเตียวหยูที่ยังเรื่องการอ้างสิทธิครอบครองกันอยู่ รวมทึ่งการแยกตัวเป็นเอกราชในทิเบตและซินเจียง ซึ่งหากไม่มีการรับมืออย่างเหมาะสมแล้วก็อาจจะส่งผลกระทบต่อความพยายามในการพัฒนาความสัมพันธ์ร่วมกันได้
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า หมู่เชนกากุนั้นอยู่ภายใต้การดูแลของญี่ปุ่นรับตั้งแต่ที่ได้รับการมอบอำนาจครอบครองเกาะโอกินาว่าจากสหรัฐเมื่อปี 2515 ซึ่งหมู่เกาะดังกล่าวไต้หวันก็อ้างว่าเป็นเจ้าของด้วยเช่นกัน และเรียกชื่อหมู่เกาะดังกล่าวว่า เตียวหยูไถ่
นสพ.ไชน่า เดลี่ ซึ่งเป็นของทางการจีนระบุว่า การเปลี่ยนแปลงนโยบายต่างประเทศอย่างฉับพลันของญี่ปุ่นคงจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ประเด็นที่ได้มีการระบุขึ้นมาข้างต้นนั้น จะยังคงหลอกหลอนความสัมพันธ์ระหว่างจีนและญี่ปุ่นต่อไป ซึ่งการแก้ปัญหาในเรื่องนี้จำเป็นต้องใช้ความเฉลียวฉลาดที่เป็นเลิศทางการเมืองของผู้นำ 2 ประเทศเพื่อป้องกันไม่ให้ความสัมพันธ์ของ 2 ฝ่ายต้องถูกบั่นทอนลง