ชาร์ป คอร์ป และ เคียวเซร่า คอร์ป มีแววว่าจะมีอนาคตสดใสภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลชุดใหม่ของญี่ปุ่น หลังจากที่รัฐบาลให้คำมั่นว่าจะเร่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งอาจทำให้ทั้งสองบริษัทซึ่งเป็นผู้ผลิตเซลล์พลังงานแสงอาทิตย์รายใหญ่ได้รับเงินสนับสนุนมากขึ้น
นักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป อิงค์ และ ดอยช์ ซีเคียวริตีส์ อิงค์ กล่าวว่า เพื่อบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้มากกว่าที่พรรคแอลดีพีเคยกำหนดไว้ 2 เท่า ทางพรรคดีพีเจอาจใช้มาตรการสนับสนุนให้มีการใช้พลังงานทดแทน และอาจมีบทลงโทษสำหรับผู้ที่ปล่อยมลพิษเกินกำหนด ซึ่งมาตรการดังกล่าวอาจส่งผลกระทบอย่างหนักต่อผู้ผลิตรถยนต์ โรงกลั่นน้ำมัน และโรงผลิตไฟฟ้า
"พรรคดีพีเจตั้งเป้าไว้สูงกว่าพรรคแอลดีพีมาก" โทโมฮิโระ จิคิฮาระ นักวิเคราะห์พลังงานจากดอยช์ ซีเคียวริตีส์ กล่าวเมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา "พวกเขาอาจเก็บภาษีคาร์บอนจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลเมื่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นฟื้นตัวดีแล้ว"
โตเกียว อิเล็กทริก พาวเวอร์ โค, โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป และ ฮอนด้า มอเตอร์ โค ต่างออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า ผู้ให้บริการสาธารณูปโภคและผู้ผลิตรถยนต์อาจได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการที่พรรคดีพีเจตั้งเป้าว่าจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 25% ภายในปี 2563 จากระดับในปี 2533 พร้อมยืนยันว่ามาตรการดังกล่าวจะกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการจ้างงาน ในขณะที่กลุ่มผู้กลั่นน้ำมันกล่าวว่าเป้าหมายดังกล่าวเป็น "อุปสรรคอันใหญ่หลวง" ต่ออุตสาหกรรม และเรียกร้องให้รัฐบาลแจกแจงรายละเอียดว่าจะใช้มาตรการดังกล่าวอย่างไร สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน