"อภิสิทธิ์"แจงกระทู้สดระบุคนทำคลิปเสียงบิดเบือนหวังบ้านเมืองปั่นป่วน

ข่าวการเมือง Thursday September 3, 2009 17:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย(พท.) ตั้งกระทู้สดถามนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับคลิปเสียงของนายกรัฐมนตรีที่สั่งให้เจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงสลายม็อบ นปช.เมื่อเดือน เม.ย.52 ว่าเป็นเสียงของนายอภิสิทธิ์จริงหรือไม่ โดยขอให้นายกรัฐมนตรีชี้แจงในเรื่องดังกล่าว

"ผมถามว่าคลิปเสียงความยาว 3 นาที 42 วินาที เป็นเสียงท่านนายกฯ ใช่หรือไม่ ถ้าไม่ใช่ก็ไม่ต้องตอบต่อ แต่ถ้าใช่ ผมถามต่อว่า กล่าวในโอกาสใด สถานที่ใด มีใครอยู่ด้วยบ้าง และเหตุผลอะไรถึงต้องกล่าวเช่นนั้น" ร.ต.อ.เฉลิม ตั้งกระทู้ถาม

พร้อมกันนี้ยังขออนุญาตประธานในที่ประชุมเปิดคลิปเสียงดังกล่าว ซึ่งนายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมขณะนั้นไม่อนุญาตให้ ร.ต.อ.เฉลิม เปิดคลิปเสียงนี้ โดยยกเหตุผลว่านายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เคยวินิจฉัยแล้วว่าไม่ให้เปิดคลิปเสียงนี้ตั้งแต่ช่วงการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 53

ทั้งนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ถามว่า รัฐบาลกลัวอะไรจึงไม่ให้มีการเปิดคลิปเสียงนี้ โดยพยายามอ่านถ้อยคำที่ถอดจากคลิปเสียงของนายกรัฐมนตรีต่อที่ประชุมสภาฯ ทำให้ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลหลายคนไม่พอใจและทยอยลุกขึ้นประท้วงอย่างต่อเนื่อง จนทำให้เกิดความวุ่นวายประท้วงกันไปมาระหว่าง ส.ส.ฝ่ายค้าน และ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล

ร.ต.อ.เฉลิม ยังแสดงความไม่เชื่อถือต่อการการตรวจสอบคลิปเสียงดังกล่าวของกองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) ว่าใช้เวลาที่รวดเร็วเกินไปในการสรุปว่าเป็นคลิปที่ถูกตัดต่อเสียง พร้อมกันนี้ได้ตั้งข้อสังเกตถึงความน่าเชื่อถือของบุคคลและหน่วยงานที่ร่วมกันตรวจสอบคลิปเสียง เช่น เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานที่ทำหน้าที่ตรวจสอบคลิปเสียงแต่ไม่ได้มีการขึ้นทะเบียนเป็นผู้เชี่ยวชาญไว้กับศาล

ขณะที่แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ที่มีหน้าที่พิสูจน์หลักฐานทางคดีจากศพกลับมาช่วยยืนยันว่าคลิปเสียงนายกรัฐมนตรีมีการตัดต่อถึง 60 จุด ตลอดจนหน่วยงานอื่นๆ ที่ร่วมตรวจสอบคลิปเสียงดังกล่าว เช่น กันตนา และกรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) เป็นต้น

พร้อมตั้งข้อสังเกตด้วยว่า หากคลิปเสียงดังกล่าวเป็นการทำปลอมหรือตัดต่อขึ้น แล้วเหตุใดจึงมีสถานการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นจริงตามที่ระบุอยู่ในคลิปเสียงนั้น

"ถ้าตัดต่อจริง จะไม่มีผลไปสู่การปฏิบัติ แต่นี่มันมีผลไปสู่การปฏิบัติทั้งนั้น...คนส่ง(คลิป)ไปตรวจ กับคนตรวจก็เป็นพวกเสื้อเหลืองของนายกษิต(ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ) ถ้าบอกว่าเป็นของตัดต่อ แล้วตัวเต็มอยู่ไหน และถ้าบอกว่าเป็นของปลอม แล้วของจริงอยู่ไหน" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว

ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงว่า รัฐบาลไม่ได้กลัวที่จะมีการเปิดคลิปเสียงตัดต่อดังกล่าว เพียงแต่มองว่าสภาฯ ควรจะมีบรรทัดฐานในเรื่องการนำเอกสารหรือหลักฐานที่ถูกพิสูจน์แล้วว่าเป็นเท็จมากล่าวอ้างในสภาฯ ซึ่งหากปล่อยให้มีการกระทำดังกล่าวก็เท่ากับทั้งหมดในสภาฯ ตกเป็นเหยื่อและสมคบกันทำร้ายบ้านเมือง

"ที่ไม่ได้ให้เปิด ไม่ใช่ว่ากลัวอะไร แต่เห็นว่าสภาฯ ควรมีมาตรฐาน บรรทัดฐานในกรณีนำเอกสารที่พิสูจน์แล้วว่าเป็นเท็จมาใช้ประโยชน์ทางการเมือง ซึ่งก็ถือว่าแย่อยู่แล้ว เพราะเป็นสาระเท็จที่ส่งผลให้เกิดความไม่สงบ แต่สิ่งที่แย่กว่าคือพวกเราจะตกเป็นเหยื่อในการสมคบกันทำร้ายบ้านเมือง" นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า จากที่ได้ฟังคลิปเสียงความยาว 3.42 นาทีแล้วมีข้อความในหลายตอนที่เป็นเสียงของตัวเอง แต่ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นเสียงของตนเองทั้งหมดหรือไม่ แต่เมื่อได้วิเคราะห์ดูแล้วจะรู้ว่าวัตถุประสงค์ของผู้ที่ตัดต่อคลิปดังกล่าวนี้จงใจทำให้เกิดความเข้าใจผิด และสร้างความวุ่นวายแก่บ้านเมือง

โดยยืนยันว่าเป็นคลิปที่ตัดต่อเสียงมาจากการพูดในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยฯ เมื่อวันที่ 19 และ 26 เม.ย.52 พร้อมกับยกตัวอย่างบางประโยคในคลิปเสียงว่าถูกตัดต่อบางถ้อยคำออกไป จนทำให้เกิดความหมายในลักษณะตรงกันข้าม

"คนที่ทำ จงใจจะบิดเบือน จงใจให้เป็นเรื่องเท็จ จงใจใส่ร้ายผม ให้คนเข้าใจผิดผม และก่อให้เกิดความวุ่นวาย" นายกรัฐมนตรี ระบุ

อย่างไรก็ดี ภายหลังการตอบกระทู้สดของนายกรัฐมนตรีได้มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของพรรคประชาธิปัตย์นำเอกสารที่เป็นการถอดคำพูดแบบคำต่อคำของนายกรัฐมนตรีที่พูดไว้ในรายการเชื่อมั่นประเทศไทยฯ มาแจกจ่ายให้แก่สื่อมวลชน โดยมีการเปรียบเทียบประโยคจากต้นฉบับกับประโยคที่ถูกนำไปตัดต่ออยู่ในคลิปเสียงถึง 57 จุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ