รัฐบาลชุดใหม่ญี่ปุ่นเล็งลดงบประมาณกลาโหม หวังดึงเงินโปะงบสวัสดิการสังคมและการศึกษา

รัฐบาลชุดใหม่ของญี่ปุ่นอาจตัดสินใจลดงบประมาณด้านการป้องกันขีปนาวุธลง เนื่องจากมองว่าระบบป้องกันขีปนาวุธนั้นไม่สามารถสกัดกั้นการโจมตีจากต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงเกาหลีเหนือได้

บลูมเบิร์กรายงานว่า สึโยชิ ยามากุจิ สมาชิกสภาผู้แทนฯและรองโฆษกพรรคดีพีเจ ซึ่งได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งและเตรียมจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ กล่าวว่า ระบบป้องกันขีปนาวุธเกือบจะไม่มีประโยชน์ใดๆ มีเพียง 1 หรือ 2 ระบบจาก 100 เท่านั้นที่ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในเรื่องของการสกัดระเบิดปกติ ส่วนต่างอาจจะอยู่ที่ 20% หรือ 30%

แนวความคิดในการติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธนั้นเกิดขึ้นเมื่อเกาหลีเหนือได้ยกระดับขีดความสามารถด้านนิวเคลียร์และขีปนาวุธ ทางด้านยามากูจิ กล่าวว่า การลดงบประมาณด้านการทหารนั้นเป็นเรื่องที่จำเป็นที่จะช่วยชดเชยแผนการเพิ่มงบประมาณด้านสวัสดิการสังคมและการให้ความช่วยเหลือด้านค่าเล่าเรียน

ยามากุจิกล่าวต่อไปว่า เราอาจจะลดงบประมาณด้านกลาโหม เพราะยังมีเรื่องที่ต้องทำอีกมาก เช่น การให้เงินอุดหนุนเรื่องการเลี้ยงดูเด็กเล็ก การศึกษา การดูแลสุขภาพ และการให้เงินบำนาญ

กระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่นได้ขอเพิ่มงบประมาณด้านระบบป้องกันขีปนาวุธอีก 58% เป็น 1.9 พันล้านดอลลาร์ในงบประมาณปีหน้า โดยกระทรวงกำลังพัฒนาระบบป้องกันที่ใช้ระบบ Patriot PAC-3 และอุปกรณ์ทำลายขีปนาวุธ