นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน(พผ.)กล่าวว่า แนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50 ควรเลือกประเด็นที่ทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันก่อนทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาความขัดแย้งขึ้น โดยมาตราที่มองว่าน่าจะสามารถแก้ไขได้เลย ได้แก่ มาตรา 190 กรณีให้ที่ประชุมรัฐสภาเห็นชอบข้อตกลงระหว่างประเทศก่อนที่จะไปลงนาม รวมทั้งมาตราที่เกี่ยวข้องกับที่มาของ ส.ส.เรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้ง
ส่วนประเด็นอื่นที่นอกเหนือจากนี้ยังไม่ควรจะเข้าไปแก้ไข เพราะอาจเป็นการจุดชนวนให้เกิดความขัดแย้งในสังคมได้
"มาตราใดที่ไม่ขัดแย้งมาตรานั้นต้องทำ ที่น่าจะแก้ได้เลยคือเรื่องเขตเลือกตั้ง เพราะเท่าที่คุยกันในพรรคร่วมฯ ต่างก็เห็นพ้องกัน ซึ่งฝ่ายค้านก็เห็นด้วย รวมถึงมาตรา 190 ที่เห็นพ้องกัน ส่วนเรื่องอื่นๆ คงค่อยๆ เจรจากันไป" นายชาญชัย กล่าว
สำหรับกรณีที่คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) มีแนวความคิดเสนอตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.3) หากที่ประชุมร่วมรัฐสภาไม่สามารถหาทางออกเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้นั้น นายชาญชัย กล่าวว่า ทางพรรค พผ.ยังไม่ได้หารือกันในประเด็นนี้และไม่ได้มองในแง่ลบว่าแนวคิดดังกล่าวเป็นการยื้อเวลาของรัฐบาล แต่ควรคำนึงถึงแนวทางที่จะสร้างความสมานฉันท์และทำให้เศรษฐกิจของบ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้
กรณีที่นายสมเกียรติ ศรลัมพ์ ส.ส.ของพรรค ไปร่วมกับกลุ่ม 40 ส.ว.คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น นายชาญชัย กล่าวว่า เป็นการดำเนินการส่วนตัวไม่เกี่ยวข้องกับทางพรรค