นักวิเคราะห์คาดรัฐบาลชุดใหม่ของญี่ปุ่นภายใต้การนำของนายยูกิโอะ ฮาโตยาม่า นายกรัฐมนตรีคนใหม่วางแผนที่จะแย่งชิงอำนาจจากกลุ่มข้าราชการในช่วงการประชุมรัฐสภาวันนี้ แต่อุปสรรคที่คาดว่า จะเป็นอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่สำหรับรัฐบาลญี่ปุ่นชุดใหม่ก็คือ พรรคประชาธิปไตยแห่งญี่ปุ่น (DPJ) ของเขาเอง เนื่องจากนักการเมืองที่ทำหน้าเป็นฝ่ายค้านไม่ได้มีความรู้หรือความเข้าใจในรูปแบบและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในฝั่งรัฐบาล
สตีเฟน อาร์ รี้ด ศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัยชูโอะ กล่าวว่า ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมาภายใต้กฎระเบียบของพรรคการเมืองพรรคเดี่ยวนั้น พรรคฝ่ายค้านจึงไม่ได้มีข้อมูลที่จะทำให้การติดตามการทำงานของฝ่ายรัฐบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพนัก ที่ผ่านมา นักการเมืองฝ่ายค้านจึงไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร แม้แต่นักการเมืองในสหรัฐเองบางส่วนก็เป็นแบบนี้ ไม่รู้ว่าห้องน้ำอยู่ที่ไหน ขั้นตอนแรกของการยื่นร่างกฎหมายคืออะไร ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง และพบได้มากกว่าในญี่ปุ่น นอกจากนี้ อำนาจของข้าราชการส่วนใหญ่ก็จะมาจากคุณสมบัติในเรื่องของความชำนาญ และจังหวะเวลา
ทั้งนี้ การที่รัฐสภาไม่มีประสบการณ์ทำให้การจัดตั้งรัฐบาลที่มีความเป็นอิสระมากขึ้นเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะความเป็นอิสระจากปัจจัยแห่งกลุ่มผลประโยชน์ของญี่ปุ่น ได้แก่ ข้าราชการ นักการเมือง และอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมก่อสร้าง ซึ่งนายฮาโตยาม่าเตรียมส่งส.ส. 100 รายประจำกระทรวงต่างๆเพื่อลดค่าใช้จ่ายลงให้ได้ 20% และเปิดทางให้กับนโยบายในการระดมทุนเพื่อผลประโยชน์ของเด็กๆ และยกเลิกค่าทางด่วน
พรรดีพีเจซึ่งกวาดคะแนนเสียงไป 308 ที่นั่งในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 30 ส.ค.นั้น ส.ส.เกือบครึ่งหนึ่งล้วนเป็นส.ส.หน้าใหม่ มีเพียง 12 คนเท่านั้นที่เคยทำหน้าที่ในคณะรัฐมนตรีมาก่อน และอายุโดยเฉลี่ยส่วนใหญ่ก็อยู่ที่ 48 ปี เมื่อเปรียบเทียบกับอายุโดยเฉลี่ยของส.ส.ของพรรคเสรีประชาธิปไตยหรือแอลดีพีที่ 55%
บาร์เคลย์สและมอร์แกน สแตนลีย์ชี้ว่า พรรคดีพีเจวางแผนการเพิ่มงบประมาณด้านการดูแลเด็กและการจ้างงาน และลดการจัดเก็บภาษีเชื้อเพลิงและบริษัทเอกชน รวมทั้งยกเลิกค่าทางด้วย ซึ่งแผนการเหล่านี้อาจจะสร้างแรงกดดันให้รัฐบาลต้องออกพันธบัตรมากขึ้น
นักเศรษฐศาสตร์และนักวิเคราะห์ที่บลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็น คาดว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของญี่ปุ่นมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.39% ในช่วงสิ้นปีนี้ จากระดับเดิมที่ 1.31%