ผู้นำรัสเซียพอใจกับแผนการยกเลิกโครงการติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธของสหรัฐที่สาธารณรัฐเช็กและโปแลนด์ แต่สหรัฐได้ยืนยันว่า การที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้ทบทวนแผนการติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธที่อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ได้ริเริ่มไว้นั้น สะท้อนให้เห็นถึงการประเมินความสามารถด้านขีปนาวุธของอิหร่านในทิศทางใหม่ ไม่ใช่เป็นการดำเนินการเพื่อตอบสนองรัสเซียซึ่งไม่เห็นด้วยกับการติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธดังกล่าว
ขณะที่นายโรเบิร์ต กิบส์ โฆษกทำเนียบขาวออกมาระบุว่า การตัดสินใจดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับรัสเซียแต่อย่างใด ทางด้านนักวิเคราะห์และนักกฎหมายกลับมีความคิดเห็นในเรื่องนี้แตกต่างกันไป กลุ่มหนึ่งมองว่า เป็นการแสดงจุดยืนก่อนที่นายโอบามาจะได้พบกับประธานาธิบดีดิมิทรี เมดเดเวฟ ของรัสเซียในวันที่ 23 ก.ย.ที่การประชุมสหประชาชาติที่นิวยอร์ก ซึ่งประเด็นโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านถือเป็นวาระสำคัญที่สุดของหรัฐ
เจนัส บูกาจสกี เจ้าหน้าที่ของศูนย์กลางการศึกษาเชิงยุทธศาตร์และสากลในกรุงวอชิงตัน กล่าวว่า รัฐบาลโอบามาต้องการที่จะผลักดันให้เกิดความคืบหน้าก่อนที่จะมีการประชุมที่นิวยอร์ก ซึ่งทางรัสเซียก็คงจะตีความได้ว่า สหรัฐได้ถอยออกมา ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้ค่อนข้างจะอันตราย หากจะต้องมีการเปลี่ยนท่าทีเพื่อให้ได้มาซึ่งความยอมรับ
บลูมเบิร์กรายงานว่า ผู้นำรัสเซียตอบรับความเคลื่อนไหวในฝั่งของสหรัฐ แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีสนับสนุนการคว่ำบาตรอิหร่านของนานาชาติเหมือนกับที่สหรัฐต้องการจากรัสเซีย
คอนสแตนติน โคซาคยอฟ หัวหน้าคณะกรรมการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของสภาผู้แทนฯรัสเซีย กล่าวว่า นายเมดเดเวฟชื่นชมการตัดสินใจของโอบามาว่าเป็นการตัดสินใจที่มีความรับผิดชอบ และความคืบหน้าที่ตั้งตารอกันมานานนี้แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลโอบามาเริ่มที่จะเข้าใจรัสเซียบ้างแล้ว
เมื่อปีที่แล้ว นางคอนโดลิสซ่า ไรซ์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐได้ลงนาม และนาโต้ได้ให้การรับรองแผนการติดตั้งสถานีเรดาร์ในเช็กและติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธทางตอนเหนือของโปแลนด์ในปีเดียวกัน ซึ่งโครงการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะสกัดการโจมตีด้วยจรวดจากประเทศที่เป็นปฏิปักษ์กับสหรัฐ ซึ่งความเคลื่อนไหวเช่นนี้จุดกระแสการประท้วงและส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์กับรัสเซียที่มองว่า ข้อตกลงนี้เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของรัสเซีย