บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือคนเสื้อแดงบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้าในช่วงค่ำเป็นไปอย่างคึกคัก เพราะผู้ชุมนุมต่างเฝ้ารอการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ามายังเวทีปราศรัยตามที่นัดหมายไว้ในเวลา 20.30 น.
พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินเข้ามายังกลุ่มเสื้อแดงตามเวลาที่นัดหมายไว้กับแกนนำนปช. โดยระบุว่า ผลจากการปฏิวัติรัฐประหารในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาทำให้ประเทศไทยอยู่ในสภาพถอยหลังเข้าคลอง ทั้งๆ ที่มีโอกาสเติบโตได้ในสายตาของทั่วโลก
โดยเห็นว่าสังคมไทยในปัจจุบันเกิดความไม่เป็นธรรมหลายด้าน อีกทั้งสิทธิเสรีภาพของสังคมที่หายไป นอกจากนี้ยังเกิดความขัดแย้งอย่างหนักในสังคมไทย โดยเฉพาะเหตุการณ์คนไทยปะทะกันเองที่ จ.ศรีสะเกษ ในกรณีทวงคืนเขาพระวิหาร รวมถึงกรณีการปลด พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ที่รัฐบาลหวังเพียงเพื่อจัดการกับ พล.ต.อ.พัชรวาท แต่ถึงกับทำลายสำนักงานตำรวจแห่งชาติทั้งสำนักงาน "วันนี้เป็นวันที่ครบ 3 ปีการปฏิวัติรัฐประหาร ศตวรรษที่ 21 คนทั้งโลกมองว่าประเทศไทยได้พัฒนาตัวเอง เกือบจะพัฒนาแล้ว และได้ถอยหลังเข้าคลองสู่เผด็จการรัฐประหาร ผมเป็นห่วงคนทั้งประเทศบอบช้ำ การที่พยายามจะขจัดกันโดยอยู่ระบอบนอกประชาธิปไตย การต่อสู้ซึ่งสามารถที่จะใช้การพูดจาก็จบแต่ใช้อาวุธมากมาย แม้แต่อาวุธนิวเคลียร์ก็ต้องใช้ แล้วถูกสารกัมมันภาพรังสีตายไปเอง" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวด้วยว่า เหตุผลที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) ใช้ในการทำปฏิวัติรัฐประหารตนในช่วง 3 ปีก่อนนั้น ก็ยังคงเกิดขึ้นอยู่ในรัฐบาลปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการคอร์รัปชั่น ความไม่จงรักภักดี การแทรกแซงองค์กรอิสระ และการแทรกแซงสื่อ นอกจากนี้สภาพเศรษฐกิจก็ยังวิกฤติทั้งๆ ที่ประเทศอื่นไม่วิกฤติ สินค้าขายได้น้อยลง การท่องเที่ยวหด การลงทุนลดลง ข่าวสารที่เป็นมงคลหายไป ความยุติธรรมหายไป ทำให้คนไทยมีความสุขลดลงกว่าสมัยที่ตนเป็นรัฐบาล
สำหรับการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงจนถึงขณะนี้ยังเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย บริเวณโดยรอบนอกทางเข้าลานพระบรมรูปทรงม้ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารตั้งด่านจุดตรวจ เพื่อเฝ้าระวังเหตุการณ์ที่อาจจะมีกลุ่มผู้ไม่หวังดีเข้ามาก่อความวุ่นวาย หรือสร้างสถานการณ์ได้