ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐมีแนวโน้มว่าจะได้รับการสนับสนุนจากจีนและรัสเซียในเรื่องการผลักดันให้มีการคัดค้านการแพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์การประชุมสมัชชาสหประชาชาติวันพรุ่งนี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ทั้ง 3 ประเทศจะใช้มาตรการรุนแรงกับอิหร่านหรือเกาหลีเหนือ
โอบามา ซึ่งถือเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนแรกที่จะเข้าร่วมการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็น จะเรียกร้องให้มีการลงคะแนนเสียงสนับสนุนร่างมติให้มีการควบคุมการแพร่กระจายและการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ รวมทั้งมาตรการป้องกันวัตถุที่ใช้ผลิตอาวุธ ซึ่งทูตในสังกัดคณะมนตรีความมั่นคงมองว่า โอบามาจะได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นเอกฉันท์จากผู้นำนานาประเทศที่เข้าร่วมประชุม
บลูมเบิร์กรายงานว่า มติที่จะมีการเรียกเสียงสนับสนุนนี้ไม่ได้มีการระบุชื่อของอิหร่านหรือเกาหลีเหนือแต่อย่างใด นับเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันระหว่างสหรัฐ จีน และรัสเซียที่มีต่อวิธีการในการรับมือกับประเทศไม่ได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านนิวเคลียร์
ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือได้ถอนตัวจากสนธิสัญญาการไม่แพร่กระจายนิวเคลียร์ และได้ทดลองขีปนาวุธไปเมื่อช่วงกลางปี ขณะที่อิหร่านก็ยังคงครอบครองวัตถุที่คาดว่าจะนำไปใช้ในโครงการอาวุธนิวเคลียร์ โดยไม่สนใจเสียงเรียกร้องจากนานาประเทศที่ต้องการให้อิหร่านยุติการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม
เฮนรี โซโคสคี ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษานโยบายการไม่แพร่กระจายอาวุธ กล่าวว่า ในช่วงที่เรื่องราวของ 2 ประเทศดังกล่าวทำให้ประเทศอื่นๆต้องมาประชุมร่วมกันเพื่อกำหนดทิศทางในการป้องกันการผลิตและพัฒนาอาวุธเหล่านี้ บางทีเราอาจจะต้องหลีกเลี่ยงการที่จะพูดถึงประเทศใดประเทศหนึ่งโดยตรง แต่ถ้าเราปล่อยให้จีนและรัสเซียเป็นผู้กำหนดทิศทางว่าอะไรจะเป็นยังไงต่อไป ความพยายามที่จะควบคุมและป้องกันอาวุธนิวเคลียร์ก็อาจจะสิ้นสุดลง
โอบามาได้พยายามหาเสียงในช่วงเปิดการประชุมสมัชชายูเอ็นเพราะต้องการเน้นย้ำถึงความสำคัญของการลดอาวุธนิวเคลียร์ในประเทศต่างๆทั่วโลก ทางด้านซูซาน ไรซ์ เอกอัครราชทูตสหรัฐ กล่าวว่า หากมีข้อตกลงเกิดขึ้น ก็จะถือเป็นแรงกระตุ้นสำหรับจีนและรัสเซียในการหาวิธีการหยุดยั้งโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านและเกาหลีเหนือ