นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50 ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการทำงานกับพรรคร่วมรัฐบาล เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาพรรคร่วมรัฐบาลทำงานเข้าใจกันเป็นอย่างดี เชื่อว่าเป็นเพียงผู้ต้องการปล่อยข่าวเพื่อต้องการให้เกิดความขัดแย้งขึ้น หลังจากถูกมองว่าพรรคประชาธิปัตย์พยายามจะยื้อเวลาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยการเสนอแนวคิดจัดตั้ง ส.ส.ร.3
"ผมเป็นผู้ประสานงานพรรคร่วม มีความเข้าอกเข้าใจกันดี คุยกันรู้เรื่องทุกเรื่อง ยังไม่มีใครโกรธเคืองอะไรผม มีแต่คนพยายามปล่อยข่าว เจาะยางอยู่เรื่อยๆ" นายสุเทพ กล่าว
พร้อมเชื่อว่า การประชุมวิป 3 ฝ่ายเมื่อวานนี้ถือเป็นสัญญาณที่ดีในการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งหลังจากมีข้อสรุปจากที่ประชุมวิป 3 ฝ่ายแล้วจะนำไปหารือกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีต่อไป
นายสุเทพ กล่าวถึงการลงประชามติเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ในความเห็นส่วนตัวแล้วเห็นว่าเมื่อจะทำประชามติแล้วก็ควรจะสอบถามประชาชนถึงประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 6 ข้อไปในคราวเดียวกัน เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา โดยรัฐบาลพร้อมจะชี้แจงทุกประเด็นก่อนที่จะมีการทำประชามติ
ทั้งนี้ หากได้ข้อสรุปจากการทำประชามติแล้ว ก็ขอให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเคารพความเห็นประชาชนในจุดยืนนี้ด้วย และไม่ควรจะออกมาเคลื่อนไหวอีก
รองนายกรัฐมนตรี ยังไม่ห่วงต่อกรณีที่ฝ่ายค้านนำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 53 ส่งให้ศาสรัฐธรรมนูญพิจารณาว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะเรื่องนี้มีแนวทางในการปฏิบัติตามกฎหมายไว้อยู่แล้ว คือ สามารถใช้กรอบงบประมาณรายจ่ายเดิมในปี 52 ทำงานไปก่อนได้
"ไม่ห่วง ไม่มีปัญหาอะไร เราก็ปฏิบัติตามกฎหมาย ถ้างบประมาณปีใหม่(53) ประกาศใช้ไม่ได้ก็ใช้กรอบงบประมาณเดิมทำงานไปก่อน"นายสุเทพ กล่าว
รองนายกรัฐมนตรี มองว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นความผิดของสำนักงบประมาณ เพียงแต่เป็นเรื่องที่ฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตขึ้นมาเท่านั้น ทั้งนี้ รัฐบาลจะไม่ประสานเป็นการภายในเพื่อสอบถามไปยังศาลรัฐธรรมนูญว่าจะตีความเรื่องนี้อย่างไร เพราะอาจถือเป็นการเข้าไปแทรกแซงกระบวนการทำงานของศาลได้
นายสุเทพ ยังออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาของกลุ่มเสื้อแดงด้วยว่า รัฐบาลไม่ได้อนุมัติงบประมาณกว่าหมื่นล้านบาทให้กับกองทัพเพื่อแลกกับการไม่ให้ทหารออกมาปฏิวัติ