ประธานาธิบดีมาห์มู้ด อาห์มาดิเนจ๊าด ผู้นำอิหร่าน กล่าววิพากษ์วิจารณ์สหรัฐและอิสราเอล ระหว่างการปราศรัยต่อหน้าที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติเมื่อวานนี้ ด้านสหรัฐและประเทศอื่นได้พูดเตือนอิหร่านเกี่ยวกับการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
"เราขอเรียกร้องให้อิหร่านทำตามที่สำนักงานพลังงานปรมาณูสากลและคณะมนตรีความมั่นคงกำหนดเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาคมโลก" เดวิด มิลิแบนด์ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศอังกฤษ อ่านในแถลงการณ์ซึ่งออกโดย สหรัฐ จีน ฝรั่งเศส รัสเซีย และสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคง รวมถึงเยอรมนี พร้อมเรียกร้องให้อิหร่านตอบสนองข้อเรียกร้องอย่างจริงจังในการเจรจาที่จะมีขึ้นในวันที่ 1 ตุลาคมนี้
ด้านอาห์มาดิเนจ๊าดได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับการที่หลายประเทศให้การสนับสนุนอิสราเอลในการยึดครองพื้นที่เขตเวสท์แบงค์ รวมถึงการปิดล้อมฉนวนกาซ่า และกล่าวว่าชาวปาเลสไตน์จำนวนมากตกเป็นเหยื่อของนโยบายของประเทศดังกล่าว
"เพราะเหตุใดอาชญากรรมที่ก่อกับผู้หญิงและเด็กที่ไม่มีทางสู้ รวมถึงการทำลายบ้านเรือน ท้องนา โรงพยาบาล และโรงเรียน จึงได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากรัฐบาลหลายประเทศ" ผู้นำอิหร่าน กล่าว
นอกจากนั้นอาห์มาดิเนจ๊าดยังวิพากษ์วิจารณ์กองทัพสหรัฐในอิรักและอัฟกานิสถาน พร้อมย้ำว่าสหรัฐมีส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลก
ด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวภายหลังจากที่ได้พูดคุยกับประธานาธิบดีดมิทรี เมดเวเดฟ ของรัสเซียว่า ถ้าอิหร่านไม่ตอบสนองความพยายามของนานาประเทศด้วยการเจรจา สหประชาชาติก็คงจะต้องดำเนินการอะไรมากขึ้นไปอีก ซึ่งร่วมถึงการลงโทษเพิ่มเติม
ด้านประธานาธิบดีเมดเวเดฟกล่าวว่า นานาประเทศจำเป็นต้องช่วยอิหร่านให้ตัดสินใจอย่างถูกต้องเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ พร้อมระบุว่า แม้การคว่ำบาตรส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะได้ผล แต่มาตรการลงโทษใหม่ๆต่ออิหร่านก็อาจเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศของจีนไม่เห็นด้วยกับการคว่ำบาตร โดยกล่าวว่าการเพิ่มแรงกดดันต่ออิหร่านไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา การคว่ำบาตรจะทำให้ความพยายามทางการทูตที่ดำเนินอยู่ในเวลานี้สูญเปล่า