ที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้สรุปมติการประชุมเมื่อวานนี้ ภายใต้การผลักดันของประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐที่เรียกร้องให้นานาประเทศยกเลิกการแพร่กระจายและการครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ ขณะที่ผู้นำของอังกฤษ ฝรั่งเศสได้แสดงความคิดเห็นที่ดุเดือดเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน
นายโอบามาซึ่งได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนอย่างเป็นเอกฉันท์เรื่องการควบคุมการแพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์และการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์นั้น ไม่ได้ระบุถึงชื่อประเทศอิหร่านแต่อย่างใด เพราะสหรัฐมองว่าการระบุชื่อประเทศใดประเทศหนึ่งลงไปอาจจะทำให้ไม่ได้รับเสียงสนับสนุนจากที่ประชุมได้
บลูมเบิร์กรายงานว่า ผู้นำสหรัฐกล่าวว่าในอีก 12 เดือนข้างหน้าจะเป็นช่วงเวลาสำคัญในการกำหนดมติของที่ประชุม รวมทั้งการใช้ความพยายามในการหยุดยั้งการแพร่กระจายและการใช้อาวุธนิวเคลียร์ให้สำเร็จตามเป้าหมาย
ทั้งนี้ ในวันที่ 1 ต.ค. ซึ่งประเทศสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น ได้แก่ สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส จีน และรัสเซียนั้น จะได้มีการประชุมร่วมกันอีกครั้ง เพื่อพิจารณาเรื่องอิหร่านว่าจะยินยอมที่จะจำกัดขอบเขตโครงการนิวเคลียร์ของประเทศหรือไม่ ขณะที่โอบามาไม่ได้ระบุถึง 2 ประเทศโดยตรงในฐานะที่ตนเองได้ทำหน้าที่ประธานคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นครั้งนี้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีกอร์ดอน บราวน์ ของอังกฤษ และประธานาธิบดีนิโคลาส์ ซาร์โกซีย์ได้แสดงความคิดเห็นที่ดุเดือดในการประชุม
ซาร์โกซีย์กล่าวถึงอิหร่านและเกาหลีเหนือว่า สิ่งที่ทั้ง 2 ประเทศกำลังทำอยู่นั้นทำให้เกิดความวิตกกังวลในหลายประเทศ และอาจจะนำประเทศต่างๆทั่วโลกไปสู่หายนะ และไม่มีใครเชื่ออย่างสนิทใจได้ว่าเป้าหมายของกิจกรรมด้านนิวเคลียร์เหล่านี้เป็นไปเพื่อสันติ
ทางด้านนายกฯอังกฤษกล่าวว่า คณะมนตรีความมั่นคงจะต้องจัดการกับอิหร่านมากกว่าเดิม เพื่อหันเหอิหร่านออกจากโครงการอาวุธนิวเคลียร์ เราจำเป็นต้องขีดเส้น เนื่องจากเห็นได้ชัดว่ามีการละเมิดข้อตกลงสากลมากขึ้น ดังนั้น ตอนนี้เราต้องพิจารณาเรื่องการใช้มาตรการคว่ำบาตรมากกว่านี้ร่วมกัน