นายแพทย์บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า การประชุมวิป 3 ฝ่าย ถือเป็นการบรรลุความเห็นพ้องเบื้องต้นจากฝ่ายการเมือง ดังนั้น จึงควรสานต่อใน 3 แนวทาง ทั้งการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน โดยการอธิบายต่อสังคมต่อกระบวนการสร้างสมานฉันท์ รวมถึงการขยายผลในบางประเด็น ควรต้องทำประชาพิจารณ์ และทุกฝ่ายจะต้องนำข้อคิดเห็นไปสู่การทำประชามติ มั่นใจว่ากระบวนการทั้งหมดจะชัดเจนและกรอบระยะเวลาที่ใช้จะไม่มาก
ขณะเดียวกันเห็นว่าเมื่อ คณะกรรมสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญหมดวาระลง ควรแต่งตั้งคณะกรรมการฯ ขึ้นใหม่โดยใช้ชุดเดิม แต่ให้ขยายขอบเขตอำนาจหน้าที่และกรอบเวลาให้ชัดเจน โดยควรเป็นหน้าที่ของรัฐสภาในการแต่งตั้ง
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า พรรคไม่รู้สึกกังวลต่อการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่อาจถูกยื่นถอดถอนตามมาตรา122 เพราะการให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมและรับผิดชอบร่วมกัน จะสามารถตอบโจทย์ของสังคมได้ สำหรับกรณีที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ระบุว่าขณะนี้ประเทศสิงคโปร์ไม่กล้าขึ้นศาลนั้น ยืนยันว่าศาลไทยยังคงมีความน่าเชื่อถือ และคดีต่างๆ ที่เข้าสู่กระบวนการของศาลขอให้ทุกฝ่ายให้การยอมรับ