นายมาห์มูด อาห์มาดิเนจ๊าด ประธานาธิบดีของอิหร่าน อ้างว่า การก่อสร้างโรงงานเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมแห่งที่ 2 เป็นไปตามกฎระเบียบของสำนักงานพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) พร้อมเมินเสียงวิจารณ์จากประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ และผู้นำชาติอื่นๆ
"สิ่งที่เราทำนั้นถูกกฎหมายอย่างแน่นอนที่สุด" อาห์มาดิเนจ๊าดกล่าวกับผู้สื่อข่าวผ่านล่ามในการแถลงข่าวที่โรงแรมในนิวยอร์กวานนี้
"มันไม่ใช่เรื่องใหม่" ผู้นำอิหร่านกล่าว โดยเขาอยู่ระหว่างการเดินทางเยือนนิวยอร์กเพื่อร่วมประชุมสมัชชาองค์การสหประชาชาติ
อาห์มาดิเนจ๊าดเน้นย้ำว่า อิหร่านมีสิทธิ์ที่จะใช้พลังงานนิวเคลียร์อย่างสันติ และอ้างว่าโรงงานเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมแห่งที่สองที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างนั้น อยู่ภายใต้กฎของ IAEA และกล่าวว่าอิหร่านได้แจ้งให้ทาง IAEA ทราบล่วงหน้าหนึ่งปีก่อนที่กำหนดเส้นตาย 6 เดือนจะเริ่มต้น ซึ่งหมายความว่าโรงงานแห่งใหม่จะยังไม่สามารถเปิดดำเนินการได้จนกว่าจะครบ 18 เดือน
ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน โอบามากล่าวในการแถลงข่าวที่พิตต์สเบิร์กว่า "โรงงานแห่งนี้เป็นการตอกย้ำว่าอิหร่านยังคงฝ่าฝืนกฎระเบียบข้อบังคับภายใต้มติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และข้อเรียกร้องของ IAEA"
ผู้นำสหรัฐ นายกรัฐมนตรีกอร์ดอน บราวน์ของอังกฤษ และประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซีย์ของฝรั่งเศส ยังได้ร่วมกันออกแถลงการณ์เตือนอิหร่านเรื่องโครงการนิวเคลียร์ หลังจากที่ IAEA ได้ออกแถลงการณ์ไม่นานว่า อิหร่านกำลังสร้างโรงงานเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมแห่งที่ 2
เมื่อคืนวันพุธ รัฐมนตรีต่างประเทศจากสมาชิกถาวร 5 ชาติของคณะมนตรีความมั่นคงฯ ได้แก่ สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย และจีน ร่วมด้วยเยอรมนี ได้จัดการประชุมระดับสูงขึ้นเพื่อร่วมกันผลักดันมติ และมีกำหนดที่จะประชุมร่วมกับหัวหน้าผู้แทนเจรจานิวเคลียร์ของอิหร่านที่กรุงเจนีวาในวันพฤหัสบดีหน้า
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ปัจจุบันอิหร่านต้องเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตร เนื่องจากอิหร่านยังคงเดินหน้าโครงการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม แม้ว่าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจะผลักดันให้อิหร่านระงับการดำเนินการดังกล่าว
อาห์มาดิเนจ๊าดกล่าวว่า เขาแปลกใจกับปฏิกิริยารุนแรงจากโอบามาและผู้นำคนอื่นๆต่อกรณีการสร้างโรงงานแห่งใหม่ และเสริมว่าชาวอิหร่านเลือกที่จะหลีกเลี่ยงไม่ดำเนินการตอบโต้ที่แข็งกร้าวเกินไป และจะเข้าร่วมการประชุมที่เจนีวาในเดือนหน้าตามที่ได้มีการกำหนดไว้