นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐฐาล(วิปรัฐบาล) กล่าวว่า ข้อสรุปของวิป 3 ฝ่ายยืนยันตามข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะเสนอให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50 ใน 6 ประเด็น
โดยวันนี้จะส่งเรื่องให้ประธานรัฐสภาเพื่อมอบหมายให้สำนักกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภายกร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม โดยแยกเป็น 2 แนวทาง แนวทางแรก ยกร่างแยกเป็นฉบับละประเด็นรวม 6 ฉบับ แนวทางที่สอง ยกร่างฉบับเดียวซึ่งจะรวมทั้ง 6 ประเด็น คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ เมื่อยกร่างเสร็จแล้วให้เสนอต่อวิป 3 ฝ่ายเพื่อร่วมกันพิจารณาอีกครั้ง ก่อนที่จะให้ ส.ส.และ ส.ว.ร่วมกันลงชื่อเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญตามมาตรา 291 ของรัฐธรรมนูญ
ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า สำหรับประเด็นการมีส่วนร่วมของประชาชนนั้น วิป 3 ฝ่ายเห็นว่าเรื่องนี้มีสำคัญ โดยในวันพรุ่งนี้(2 ต.ค.) เวลา 09.00 น.ตัวแทนวิป 3 ฝ่ายจะนัดหารือกับนายกรัฐมนมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อรับฟังความเห็นทุกฝ่ายว่า กระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนจะเป็นไปในรูปแบบใด เพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญทำให้เกิดความสมานฉันท์
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมวิป 3 ฝ่ายเห็นชอบตรงกันที่จะไม่ให้คณะกรรมการสมานฉันท์ฯ เป็นผู้ยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ แม้แต่นายดิเรก ถึงฝั่ง ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ เองก็เห๋นเช่นนั้น โดยให้เหตุผลกันว่า เมื่อคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ สิ้นสภาพแล้วก็คงจะหมดหน้าที่ จะไปดำเนินการยกร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมต่อคงไม่เหมาะสม
ทั้งนี้มีรายงานว่า เหตุที่มีผลสรุปยกร่างรัฐธรรมนูญเป็น 2 แนวทางนั้น เนื่องจากพรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคภูมิใจไทยเป็นฝ่ายเสนอให้ยกร่างรัฐธรรมนูญแยกเป็นประเด็นๆ รวม 6 ฉบับตามจุดยืนของทั้ง 2 พรรค