นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการตัดสินใจเข้ามานั่งในตำแหน่งประธานพรรคเพื่อไทยของพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าเป็นเรื่องปกติส่วนที่จะระบุว่าจะเข้ามาเพื่อเจรจาก็ไม่ทราบจะเจรจาเรื่องอะไร แต่โดยบุคลิกของพล.อ.ชวลิตก็ถือว่ามีบุคลิกภาพเป็นคนประนีประนอม ส่วนจะเข้ามาเพื่อเป็นคนกลางเจรจานิรโทษกรรมให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คงจะรับฟังไม่ได้ เพราะทุกขั้นตอนต้องอยู่ภายใต้กฏหมาย ต้องเดินตามกระบวนการยุติธรรม คือต้องโทษตามคำพิพากษาก่อน อย่ามาขีดเส้นเรื่องนิรโทษกรรม
ส่วนการชุมนุมคนเสื้อแดง ก็ให้อยู่ในขอบเขตต้องคำนึงถึงภาวะเศรษฐกิจที่กำลังเดินหน้าและไม่เชื่อว่าเดือนตุลาคมนี้จะเป็นเดือนแดงเดือด ตามที่มีการประกาศข่มขู่มาตลอด แต่ทั้งนี้รัฐบาลก็ไม่ได้ประมาท ได้สั่งการให้หน่วยงานข่าวกรองติดตามสถานการณ์มาโดยตลอด และขอยืนว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการจับขั้วพรรคระหว่างพรรคประชาธิปัตยและพรรคเพื่อไทย เพราะต้องเคารพในระบอบประชาธิปไตย ผ่านการเลือกตั้งโดยประชาชนเสียงส่วนใหญ่จะเป็นคนชี้ว่าฝ่ายไหนจะเป็นผู้บริหารประเทศชาติ
ส่วนเรื่องการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)ที่ยังไม่ลงตัว. ขอยืนยันว่าการบริหารจัดการต้องดำเนินการไปตามขั้นตาม ได้กำชับรักษาการพล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษา ผบ.ตร.ให้เร่งจัดการปัญหาเฉพาะหน้ากิจการภายในทั้งเรื่องปัญหาอาชญากรรม กวาดล้างอบายมุข โดยตั้งใจว่าจะมีตำแหน่งรักษาการผบ.ตร.ให้สั้นที่สุด ส่วนที่ยังมัปัญหามาถึงทุกวันนี้ก็เพราะก.ต.ช.ไม่ได้ความเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีได้เสนอไป เพราะเป็นอำนาจหน้าที่ที่จะเสนอชื่อ
ส่วนการลาออกของเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายนิพนธ์ พร้อมพันธ์ แม้จะกระทบต่อความเชื่อมั่นของรัฐบาลราชการ แต่ขอยืนยันว่าจะบริหารจัดการได้ นอกจากนี้ยังได้ขอความร่วมมือสื่อ อยากให้ถามเรื่องเนื้องานอย่าใช้กระแสเป็นตัวตั้ง อย่างเช่นบางสื่อได้กล่าวหาว่านายกฯมัวหมกหมุ่นอยู่แต่เรื่องพ.ต.ท.ทักษิณ คนเสื้อแดง หรือการแต่งตั้งพบ.ตร. ขอยืนยันว่าไม่ได้คิดเรื่องเหล่านี้เลย แต่สื่อมักจะตั้งคำถามนำและหากเป็นไปได้ขอใช้สิทธิ์ไม่ตอบคำถามบ้างได้หรือไม่ ส่วนเรื่องคลิปคนรูปหล่อในพรรคปชป.ตามที่จตุพร พรมพันธ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย ออกมากุข่าวก็ไม่ทราบว่ามีที่มาอย่างไร แต่สุดท้ายจะเป็นเครื่องสะท้อนพฤติกรรมตนที่ออกมาปล่อยข่าวเอง