นายกฯ สั่ง สธ.ระงับแผนซื้อครุภัณฑ์โครงการไทยเข้มแข็งหลังถูกร้องทุจริต

ข่าวการเมือง Thursday October 8, 2009 11:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี สั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขระงับการสั่งซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ตามโครงการไทยเข้มแข็งวงเงิน 8.6 หมื่นล้านบาทและดำเนินการตรวจสอบให้เกิดความชัดเจนก่อนเพื่อป้องกันการทุจริต หลังมีผู้ร้องเรียนว่ามีราคาสูงกว่าราคากลาง และบางรายไม่มีความจำเป็นต้องใช้

"อุปกรณ์อะไรที่ไม่จำเป็นก็ไม่ควรซื้อ ใครเข้าไปเกี่ยวข้องก็สอบถามไป ขอให้ส่งพยานหลักฐานให้คณะกรรมการสอบฯ ซึ่งทางรัฐมนตรี(สาธารณสุข)ก็ยินดีจะปรับปรุงคณะกรรมการให้ถ้าเห็นว่าจำเป็น"นายอภิสิทธิ์ กล่าว

วานนี้ นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท ได้เข้าพบนายกรัฐมนตรีเพื่อชี้แจงถึงข้อมูลการทุจริตโครงการดังกล่าว ซึ่งมีนักการเมืองจากพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยไม่น้อยกว่า 4-5 คนเข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริต รวมถึงมีข้าราชการประจำอีก 2-3 คน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้ขอให้ประธานชมรมแพทย์ชนบทสรุปข้อมูลที่คิดว่ามีความเสียหาย ทั้งในส่วนการก่อสร้างและการจัดซื้ออุปกรณ์แล้วส่งมาให้เป็นลายลักษณ์อักษร ส่วนที่ประธานชมรมแพทย์ชนบทไม่มั่นใจว่าจะสามารถดำเนินการเอาผิดกับนักการเมืองที่เกี่ยวข้องได้นั้น ตนเองได้บอกไปแล้วว่าหากไม่มั่นใจเรื่องคณะกรรมการตรวจสอบก็ให้บอกมา จะพิจารณาปรับปรุงให้

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีที่มีนักการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์เข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริตนั้น ก็ได้ขอให้ส่งข้อมูลเพิ่มเติม หากมีประเด็นใดที่ต้องให้พรรคดำเนินการก็จะทำ

"พูดตรงๆ อย่างโครงการที่เป็นปัญหามากในกระทรวงสาธารณสุขที่แพทย์ชนบทบอก คือโครงการที่มีการวางกันไว้ในสมัยที่บอกว่าจะทำเมกะโปรเจ็คต์ของกระทรวงสาธารณสุข ก็ไปยกตรงนั้นมาแล้วนำมาใส่ มันมีที่มาที่ไปของมัน แต่หน้าที่ของรัฐบาลคือจะป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น แล้วถ้าเกิดขึ้นก็จะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา เราก็หวังว่าถ้าทำอย่างนี้ไประยะหนึ่งก็จะปรามคนได้มากขึ้น" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

เมื่อถามว่า คนทำไม่ดีไม่เคยสำนึกว่าเงินส่วนนี้เป็นเงินกู้ นายกฯกล่าวว่า มันจะเป็นเงินกู้หรือเงินภาษี มันก็ไม่ควรจะมีการไปหากินกับเรื่องพวกนี้ รัฐบาลก็ต้องเดินหน้าในการเอาจริงเอาจัง สอบสวนปราบปราม หามามาตรการป้องกัน เปิดโอกาสให้คนมีส่วนร่วม จริงๆแล้วทุกกระทรวง จะไปบอกว่ามีเฉพาะกระทรวงสาธารณสุขหรือเฉพาะในยุคนี้อย่างเดียวมันไม่จริง แต่ทำอย่างไรเราช่วยกันตรวจสอบ บังเอิญว่ากระทรวงสาธารณสุขเข้มแข็งตรวจสอบได้ก่อนยิ่งดี จะได้ป้องกัน ใครเข้าไปเกี่ยวข้องเราก็จะจัดการ



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ