นายวิทยา บุรณศิริ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า ฝ่ายค้านยังคงสนับสนุนที่จะให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญใน 6 ประเด็น ตามผลสรุปของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ แต่ไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการทำประชามติใน 6 ประเด็นเท่านั้น โดยใช้เงินงบประมาณดำเนินการถึง 2 พันล้านบาท โดยเห็นว่าการทำประชามติควรให้มีการเปรียบเทียบระหว่างรัฐธรรมนูญปี 40 กับ ปี 50 ด้วย
"พรรคยืนยันที่จะสนับสนุน 6 ประเด็นตามแนวทางคณะกรรมการสมานฉันท์...แต่เมื่อกฤษฎีกาให้ความเห็นเรื่องการทำประชามติ ต้องทำก่อนแก้รัฐธรรมนูญ ถ้าเสียเงิน 2 พันล้านบาท ใน 6 ประเด็น เราไม่เห็นด้วย แต่ควรแก้ใหญ่เอารัฐธรรมนูญปี 40 เทียบปี 50" นายวิทยา กล่าว
นายวิทยา ยังกล่าวถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ระบุว่า ทางพรรคจะถอนตัวจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า น่าจะเป็นความห่วงใยของประธาน ส.ส.พรรค เพราะเกรงว่ารัฐบาลจะไม่เร่งเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ แต่จากการหารือกันทางโทรศัพท์กันแล้วมีความเข้าใจตรงกัน และการร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญถือเป็นมติจากที่ประชุมพรรคมาก่อนหน้านี้แล้ว
ขณะที่นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) กล่าวว่า ผลการประชุมวิป 3 ฝ่ายวันนี้มีมติให้ทำหนังสือถือประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้สำนักกฎหมายของทั้ง 2 สภาเตรียมดำเนินการยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญใน 6 ประเด็น และแต่งตั้งผู้อำนวยการสำนักกฎหมายของทั้ง 2 สภาเป็นคณะกรรมการยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยพิจารณาว่าการยกร่างแก้รัฐธรรมนูญจะดำเนินการรวมทั้ง 6 ประเด็นในฉบับเดียวกัน และแยกแก้ไข 6 ประเด็นเป็น 6 ฉบับ หลังจากนั้นให้เสนอกลับมาที่การประชุมวิป 3 ฝ่ายในวันที่ 22 ต.ค.นี้
ส่วนการจัดทำประชามตินั้น ที่ประชุมวิป 3 ฝ่ายมอบหมายให้แต่ละพรรคการเมืองไปปรึกษาหารือตามแนวทางที่คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ให้ความเห็นว่าควรทำประชามติก่อนการยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อวิป 3 ฝ่ายจะประชุมร่วมกันในวันที่ 22 ต.ค.นี้ หลังจากนั้นจะนำข้อสรุปทั้งหมดมาหารืออีกครั้งในวันที่ 5 พ.ย.52 ซึ่งคาดว่ากระบวนการยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจะใช้เวลา 30 วัน