พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี เชื่อปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคเพื่อไทย(พท.) จะไม่ยืดเยื้อบานปลายออกไป หากทั้งสองฝ่ายได้มีโอกาสพูดคุยปรับความเข้าใจกัน เพราะเป็นเพียงเรื่องเล็กๆ ที่อาจเกิดจากมีข้อมูลต่างกัน
"คนรู้จักกันทั้งนั้นก็ต้องคุยกัน คิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร ปัญหาที่เกิดเป็นเรื่องธรรมดาเมื่อข้อมูลไม่ตรงกัน ทุกคนออกมาแสดงความรับผิดชอบ แต่เพื่อส่วนรวมก็ต้องหันหน้าเข้ามาหากัน" พล.อ.ชวลิต กล่าว
วานนี้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรค พท.ยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากมีความขัดแย้งกับนายวิทยา บุรณศิริ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดย ร.ต.อ.เฉลิม ออกมาแถลงว่า พท.มีมติถอนตัวจากการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญใน 6 ประเด็นของที่ประชุมวิป 3 ฝ่าย เนื่องจากไม่เห็นด้วยที่จะใช้งบประมาณ 2 พันล้านบาท เพื่อทำประชาติแค่ 6 ประเด็น แต่เสนอให้ทำประชามติเปรียบเทียบรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 40 กับปี 50
พล.อ.ชวลิต ยังปฏิเสธที่จะเป็นกาวใจประสานทำความเข้าใจในเรื่องดังกล่าว พร้อมระบุว่า อย่าไปมองว่าเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องนี้เป็นเรื่องเล็ก เรื่องใหญ่ที่เราต้องช่วยกัน คือสร้างความเข้าใจในระดับชาติ การแก้ปัญหาความคิดระหว่างกลุ่มที่แตกแยกกัน ให้หันหน้าเข้ามาหารือกัน ที่เป็นเรื่องใหญ่มีผลกระทบต่อส่วนร่วม นอกจากนี้ยังมีเรื่องสถานการณ์ภาคใต้ที่ประชาชนยังรอการแก้ไข รวมถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดนที่ประชาชนต้องการความช่วยเหลือ
"ฐานะของผมตอนนี้ แค่สมาชิกพรรค มีอะไรที่พอจะช่วยเหลือได้ก็ต้องรับฟัง สิ่งใดที่ช่วยกันก็จะช่วย ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นใครจะเล็กหรือใหญ่ ขอให้เสียงดังๆ ก็ใช้ได้แล้ว ช่วยกันแก้ปัญหาได้" พล.อ.ชวลิต กล่าว
ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า เป็นเรื่องของพรรค ขอให้เป็นมติพรรค อย่าเพิ่งไปพูดอะไร เพราะวันนี้ตนเองไม่ใช่คนอิสระ มีคอก มีพรรค มีพวก ก็ต้องฟังความเห็นของทุกคน ที่เข้ามาอยู่กับพรรคเพื่อไทยก็เพื่อมาช่วย ไม่ได้มาแก่งแย่งหรือแข่งขันกัน วันนี้บ้านเมืองต้องการความร่วมมือ ตนเองคิดว่าพรรคประชาธิปตย์เองก็อยากร่วมมือกันแก้ปัญหาเหมือนกัน
"สิ่งใดที่ร่วมกันได้ก็ร่วมกันทำ อะไรที่ทำไม่ได้ก็ต้องว่ากันอีกที เพราะอาจจะมีเหตุผล ความคิดคนละอย่าง จึงต้องมาปรับความเข้าใจ ปรับความคิดเข้ามาหากัน เชื่อว่าคงไม่นานหากทุกฝ่ายร่วมมือกัน" พล.อ.ชวลิต กล่าว