นายแพทย์บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยว่า การเรียกร้องให้กลับมาใช้รัฐธรรมนูญปี 40 นั้น แม้จะเป็นรัฐธรรมนูญที่มาจากการมีส่วนร่วมของประชาชน แต่รัฐบาลสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่เคารพรัฐธรรมนูญ แต่กลับใช้เป็นเครื่องมือแทรกแซงองค์กรอิสระ ดังนั้นการเรียกร้องให้นำรัฐธรรมนูญปี 40 กลับมาใช้ จึงมองว่าเป็นการหวังผลให้องค์กรอิสระที่มาตามรัฐธรรมนูญ ปี 50 สิ้นสภาพ และจะส่งผลต่อคดีความของอดีตนายกรัฐมนตรีต้องเป็นโฆฆะ
ทั้งนี้การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดงในวันนี้ เพื่อรำลึกถึงการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับปี 40 ว่าจึงเชื่อว่าเป็นการหวังผลทางการเมืองมากกว่า และหากยังมีการเคลื่อนไหวต่อไป อาจจะทำให้ประเทศถึงทางตัน และการเตรียมจัดสัมมนาแดงทั้งแผ่นดิน ครั้งที่ 3 นั้น เชื่อว่า จะเป็นการสร้างความวุ่นวายทางการเมือง
สำหรับการจัดทำโพลคนเสื้อแดงที่ระบุว่า คะแนนนิยมของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีลดลง เห็นว่าเป็นการจัดทำโพล ที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ เพราะผู้ทำไม่มีความเป็นกลาง แต่ผลโพลที่ยืนยันความเป็นจริง คือ สิ่งที่คนไทยวิตกกังวลอันดับหนึ่ง คือ การสร้างความวุ่นวายให้กับคนทั้งชาติ และขณะที่การทำวิจัยจากหลายสำนัก ระบุคุณสมบัติผู้นำที่ประชาชนต้องการ คือ ความซื่อสัตย์ สุจริต ซึ่งนายอภิสิทธิ์มีคะแนนมากกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ถึงสองเท่า
ด้านนายสาธิต ปิตุเตชะ กรรมการบริหารพรรค ปชป. กล่าวว่า การสัมมนาของกลุ่มคนเสื้อแดงที่มุ่งยุยงประชาชนใช้วิธีต่อต้านที่รุนแรง ถือเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง
นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทย ยังมีพฤติกรรมที่ไม่ต้องการให้ประเทศชาติเกิดความสงบ เห็นได้จากท่าทีในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ออกมาเป็นมติจากวิป 3 ฝ่าย รวมถึงฝ่ายค้านด้วยแล้ว แต่เมื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญกำลังเข้าสู่กระบวนการ พรรคเพื่อไทยกลับประกาศจุดยืนไม่เห็นด้วยและเรียกร้องให้นำรัฐธรรมนูญ ปี 40 กลับมาใช้อีก
ทั้งนี้หากกลุ่มคนเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทยยุติพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดความวุ่นวาย เชื่อมั่น จะสร้างความเชื่อมั่น และนำไปสู่การสร้างสมานฉันท์ได้