นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ มีแผนที่จะถามผู้นำรัสเซียถึงมาตรการคว่ำบาตรที่รัสเซียจะให้การสนับสนุน หากว่าอิหร่านไม่สามารถดำเนินการตามกฎข้อบังคับเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ได้
บลูมเบิร์กรายงานว่า นางฮิลลารีได้เดินทางถึงรัสเซียเมื่อคืนที่ผ่านมาเพื่อเข้าพบกับนายเซอร์ไก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย และประธานาธิบดีดมิทรี เมดเวเดฟ ของรัสเซีย
สหรัฐและประเทศพันธมิตรในยุโรปเป็นห่วงว่าอิหร่านจะเดินหน้าโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ โดยเมื่อเดือนที่แล้ว อิหร่านได้แจ้งกับสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ว่า อิหร่านกำลังสร้างโรงงานเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ใต้ดินอยู่ ซึ่งสหรัฐ อังกฤษ และฝรั่งเศสมองว่าเป็นโครงการลับ
ในการประชุมเมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมาระหว่างสหรัฐและประเทศสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นและเยอรมนีนั้น อิหร่านเห็นชอบที่จะเปิดทางให้มีการตรวจสอบโครงการเสริมสมรรถนะที่ตั้งอยู่นอกกรุงเตหะราน และยังตกลงที่จะเข้าประชุมกับคณะผู้แทนเจรจาของสหรัฐและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นในเดือนนี้
สหรัฐและประเทศมหาอำนาจรายอื่นๆระบุว่าจะรอจนถึงสิ้นปีนี้ ก่อนที่จะผลักดันให้มีการใช้มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่กับอิหร่าน ซึ่งการคว่ำบาตรของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น 3 รอบที่ผ่านมาก็ไม่สามารถหยุดยั้งอิหร่านจากการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมได้ เจ้าหน้าที่ของสหรัฐเองยังเห็นด้วยกับการแสดงความคิดเห็นของนายเมดเวเดฟเมื่อเดือนที่แล้วที่ระบุว่า คงจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการใช้มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ได้
เจมส์ คอลลินส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำรัสเซียระหว่างปี 2540-2544 กล่าวว่า รัสเซียยังคงไม่เห็นด้วยกับวิธีการลงโทษและยังไม่เคยระบุถึงมาตรการคว่ำบาตรใหม่ๆ และสหรัฐก็ไม่ควรประเมินไว้สูงเกินไปว่า สามารถดึงรัสเซียเข้ามาเป็นพวกได้แล้ว