นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า จากการที่พรรคเพื่อไทย(พท.)มีมติไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญใน 6 ประเด็นตามผลสรุปของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ และเรียกร้องให้นำรัฐธรรมนูญปี 40 กลับมาใช้นั้นว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องเดินหน้าตามระบอบประชาธิปไตยที่ต้องใช้เสียงข้างมาก โดยใช้เสียงประมาณ 311 เสียงในสภาฯ สามารถเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญได้
"ที่มองว่ารัฐสภาไม่เป็นเอกภาพนั้นจะทำอย่างไรได้ ตอนประชามติได้ 14 ล้านเสียง มันก็ไม่เป็นเอกภาพ ก็อยากจะให้รวมกัน"นายชัย กล่าว
สำหรับความคืบหน้าการตั้งคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย 2 สภา เพื่อยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขณะนี้ได้รับหนังสือจากนายกรัฐมนตรีแล้ว และได้สั่งการให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรไปดำเนินการในเรื่องนี้ โดยยืนยันว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องฟังเสียงประชาชน เพราะประชาชนคือเสียงสวรรค์ ไม่ใช่ไม่ฟังเสียงฝ่ายค้าน
"เปรียบเสมือนเราหุงข้าวเสร็จ แขกที่มาก่อนเขาหิวก็ต้องทาน คนที่ไม่มาหรือไม่หิวก็ไม่ต้องทาน แต่สภาฯ ถือเป็นศูนย์กลางของประชาชนที่เลือกเขาเข้ามา แก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้าน ทุกอย่างจึงอยู่ที่สภา ในฐานะประชาชนเป็นสิ่งสำคัญ"ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าว
นายชัย กล่าวว่า ขอร้องผู้แทนปวงชนให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน การแก้ไขรัฐธรรมนูญขึ้นอยู่กับมติของวิป 3 ฝ่ายที่เปรียบเหมือนตั้งหม้อหุงข้าวต้มน้ำ แต่ตอนนี้ขาหักไปข้างหนึ่ง หม้อก็ตั้งไม่ได้ ดังนั้น ทั้ง 3 ขาต้องไปด้วยกัน แต่จะเหลือเพียง 2 ขาหรือไม่นั้น หากพรรค พท.จะถอนตัวจริงคงห้ามไม่ได้ แต่กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะต้องเดินหน้าต่อไป เหมือนคนตั้งท้องมา 9 เดือน ก็ต้องคลอด ห้ามกันไม่ได้ ส่วนจะสง่างามหรือไม่ ขึ้นอยู่กับมุมมองของสื่อ
"ในสภามีทั้งหมด 600 กว่าเสียง ใช้จริงๆ 311 เสียง แต่ถ้าเสียงไม่พอก็ตกไป แต่ยังเก็บไว้ เพื่อนำมาพิจารณาใหม่ได้" นายชัย กล่าว
ด้านนายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ขณะนี้ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประกอบด้วยฝ่ายกฎหมายทั้ง 2 สภา จำนวน 9 คน โดยมีนายจเร พันธุ์เปลื่อง รองเลขาธิการสภาฯ เป็นประธานคณะทำงาน โดยยึดหลักดำเนินการตามข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์ และที่ประชุมวิปทั้ง 3 ฝ่าย
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวว่า จะรอคำยืนยันจากวิปฝ่ายค้านถึงข้อสรุปของพรรค พท.อีกครั้ง ซึ่งหากฝ่ายค้านไม่เข้าร่วมคงจะมีแนวทางต่อไป เนื่องจากพรรคร่วมรัฐบาลมีจุดยืนชัดเจนว่าการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญตามแนวทางของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นในการแก้ไขปัญหาต่างๆได้ เละเชื่อว่าการทำประชามติจะทำให้ประชาชนมีส่วนร่วมแสดงความเห็น ทั้งฝ่ายที่เห็นชอบและไม่เห็นชอบ เพื่อให้แต่ละฝ่ายได้แสดงจุดยืนกันอย่างชัดเจน
ทั้งนี้ จุดเปลี่ยนแปลงของพรรค พท.เกิดจากที่พ.ต.ท.ทักษิณ ส่งสัญญาณมาเพราะคำนึงถึงแต่ประโยชน์ส่วนตัว จึงยังหวังว่าพรรค พท.จะทบทวนการตัดสินใจอีกครั้งในการคลี่คลายสถานการณ์ทางการเมืองได้ต้องไม่ยึดถือเพียงประโยชน์ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่านั้น อยากให้ทุกฝ่ายกลับมาใช้กลไกของรัฐสภาเป็นแนวทางแก้ไขปัญหา