กลุ่ม 40 ส.ว.เตรียมจัดเสวนาเรื่อง"คณะกรรมการมรดกโลก ชนวนความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา" ในวันที่ 20 ต.ค.นี้ โดยจะมีการแฉข้อมูลที่กลายเป็นชนวนปัญหาให้ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชากลับมาคุกรุ่นอีกครั้ง และจะการรวบรวมเอกสารลับทั้งหมดส่งให้องค์การยูเนสโกและคณะกรรมการมรดกโลก รวมถึงรัฐบาลไทย เพื่อใช้นำไปต่อสู้ทวงคืนเขาพระวิหาร ซึ่งขณะทราบว่าฝ่ายกัมพูชาจะได้รับการแต่งตั้งเข้ามาเป็นคณะกรรมการมรดกโลกด้วย
"ต้นเหตุมาจากคณะกรรมการมรดกโลกที่มีนางฟรังซัสส์ ริวิเยร์ ซึ่งเป็นชาวฝรั่งเศสในฐานะรอง ผอ.ใหญ่ฝ่ายวัฒนธรรม องค์การยูเนสโกกระทำการโดยไม่ชอบมาพากลมีลักษณะฉ้อฉลและเป็นผู้ลงนามเป็นพยานในแถลงการณ์ร่วมเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 51 โดยไม่เคยมีประเพณีปฏิบัติมาก่อนจนทำให้เกิดความขัดแย้งผิดวัตถุประสงค์ของคณะกรรมการมรดกโลกที่หวังให้เกิดสันติภาพ" นายไพบูลย์ นิติตะวัน สว.สรรหา ในฐานะประธานจัดงาน กล่าว
นายไพบูลย์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวนำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชาที่พัฒนาไปสู่ขั้นสูงสุดให้เกิดความสูญเสียทั้ง 2 ฝ่าย เพราะมีทหารเสียชีวิตจากการปะทะถึง 6 นาย
"จะเปิดเผยข้อมูลที่เป็นเอกสารลับการล๊อบบี้และการเตรียมการที่มิชอบผ่านยูเนสโก และคณะกรรมการมรดกโลกเพื่อให้สาธารณะได้รับทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่ามีความพยายามจากคณะกรรมการมรดกโลกฝ่ายฝรั่งเศสต้องการเข้าไปมีส่วนร่วมในการบูรณะปราสาทเขาพระวิหารในอนาคตผ่านบริษัทในเครือข่ายและให้ขึ้นทะเบียนมรดกโลกผิดระเบียบคณะกรรมการมรดกโลก" นายไพบูลยื กล่าว
นายไพบูลย์ เชื่อว่า ข้อมูลที่จะนำมาเปิดเผยในการเสวนาครั้งนี้น่าจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงมติของคณะกรรมการมรดกโลก เพราะการพิจารณาที่ผ่านมายังไม่เคยเห็นข้อมูลส่วนนี้มาก่อน
"เมื่อคณะกรรมการฯ ได้รับข้อมูลที่จะมีการเปิดเผยถึงความไม่โปร่งใสกรณีมีความพยายามล๊อบบี้จนเป็นชนวนเหตุของความขัดแย้ง เชื่อว่าคณะกรรมการมรดกโลกจะรับฟัง" นายไพบูลย์ กล่าว
ด้านนายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระ กล่าวว่า ในการเสวนาจะมีการเปิดเผยข้อมูลที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน และรัฐบาลไม่เคยรับทราบข้อมูลข้อเท็จจริงนี้ เนื่องจากมีนายทหารของฝ่ายไทยที่ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ได้ทำตัวเป็นไส้ศึกถ่ายภาพกำลังพล รวมถึงอาวุธยุทโธปกรณ์ และฝูงบินเอฟ 16 ที่ทหารไทยเตรียมนำไปประจำการเพื่อรักษาอธิปไตยบริเวณแนวเขตชายแดนบริเวณปราสาทเขาพระวิหาร โดยนำข้อมูลและถ่ายภาพไปให้กัมพูชาเพื่อนำไปฟ้องยูเนสโกและคณะกรรมการมรดกโลก
นายเทพมนตรี กล่าวว่า นายทหารคนดังกล่าวต้องเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องและมีความสำคัญในกองทัพพอสมควร เพราะไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถมีเอกสารและถ่ายรูปไปให้กัมพูชาได้ อีกทั้งยังมีความเชื่อมโยงกับบุคลในต่างประเทศด้วย