นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ส.ส.นครนายก กลุ่มทศวรรษใหม่ พรรคประชาธิปัตย์ นำเอกสารเรื่อง "ข้อเสนอประเด็นสำคัญเพื่อบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับที่กำลังยกร่าง" และธรรมนูญพรรคประชาธิปัตย์มาแจกให้แก่สื่อมวลชน พร้อมแถลงคัดค้านกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 6 ประเด็น ตามข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
เอกสารดังกล่าว เป็นข้อเสนอของพรรคประชาธิปัตย์ต่อกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่จัดทำขึ้นโดยคณะทำงาน 14 คนของพรรคตั้งแต่ ก.พ.50 โดยคณะทำงานประกอบด้วย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นประธาน, นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นที่ปรึกษา, คณะทำงานคนอื่น เช่น นายสุทัศน์ เงินหมื่น, นายชำนิ ศักดิเศษฐ์ และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นกรรมการ เป็นต้น โดยได้รับความเห็นชอบจากกรรมการบริหารพรรค และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค
เนื้อหาข้อเสนอประเด็นหลักในการยกร่างรัฐธรรมนูญ เช่น วุฒิสภา ให้มีส.ว.ที่มาจากการเลือกตั้งจำนวน 200 คน เมื่อครบ 3 ปีให้จับสลากออกครึ่งหนึ่ง ส่วนสภาผู้แทนราษฎร ให้มีส.ส.จำนวน 400 คน ไม่มีส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ โดยใช้การแบ่งเขตเลือกตั้งเขตละไม่เกิน 3 คน ในระหว่างเป็นส.ส.จะย้ายพรรคไม่ได้ และจะรวมพรรคที่มี ส.ส.อยู่ในสภาฯ ภายหลังการเลือกตั้งไม่ได้
นายชาญชัย กล่าวว่า ไม่รับไม่ได้กับการเปลี่ยนจุดยืนของพรรคเมื่อเวลาผ่านไป 2 ปี โดยสาเหตุมาจากความต้องการของพรรคร่วมรัฐบาล เพราะตนเองมองว่าแนวทางที่จะทำนี้ไม่ได้ช่วยให้เกิดความสมานฉันท์ขึ้นจริง แต่ยิ่งกลับทำให้เกิดกลียุคทะเลาะกันไม่สิ้นสุด การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องใหญ่ต้องพิจารณาจากเหตุผลอย่างรอบคอบ ไม่ใช่นึกอยากจะแก้ก็แก้
ทั้งนี้ พร้อมชี้แจงเรื่องดังกล่าวในที่ประชุมพรรควันนี้ และยืนยันว่าไม่ได้ทะเลาะกับใคร เพียงแต่ต้องการให้พิจารณาอย่างรอบคอบว่าการแก้ไขรัฐธรรมนญครั้งนี้มีประโยชน์ต่อใคร หากเป็นการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อกลุ่มผลประโยชน์ทางการเมืองก็ควรจะถอยออกมา อย่าใช้วิกฤติความแตกแยก วิกฤติบ้านเมืองมาอ้างประโยชน์พวกพ้อง มิเช่นนั้นจะสร้างความแตกแยกไม่สิ้นสุด
"ขอให้สื่อช่วยไปทำข่าวของคณะทำงานจัดทำข้อเสนอทั้ง 14 คน ว่าจุดยืนอยู่ตรงไหน จะแก้รัฐธรรมนูญก็ไม่ว่า เพราะกาลเวลาเปลี่ยน แต่ต้องอธิบายเหตุผลว่าแก้แล้วดีกว่าเก่าอย่างไร หรือไปบอกประชาชนว่าพรรคจะเปลี่ยนจุดยืน เช่น ไปบอกว่าเห็นด้วยกับพรรคร่วมที่จะแก้เพราะเขามีบุญคุณมาช่วยตั้งรัฐบาล แต่พวกผมในฐานะส.ส.ก็จะใช้สิทธิโหวตโดยอิสระในที่ประชุมสภา" นายชาญชัย กล่าว
นายชาญชัย เชื่อว่า พรรคร่วมรัฐบาลไม่เคยทราบเรื่องข้อเสนอเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญที่พรรคจัดทำไว้ในปี 50 ดังนั้นจึงต้องแจ้งให้พรรคร่วมรัฐบาลทราบว่าพรรคประชาธิปัตย์เคยมีจุดยืนอย่างนี้ประกาศออกไป แต่ถ้าจะให้แก้ไขรัฐธรรมนูญในทางที่ไม่ใช่จุดยืนของพรรค แล้วพรรคประชาธิปัตย์และผู้ใหญ่ในพรรคจะยืนตรงไหนในสังคม
"ฉะนั้นไม่ใช่พรรคร่วมจะให้พรรคประชาธิปัตย์ทำอะไรพรรคก็ต้องทำให้หมด แบบนี้จะเอาพรรคไปด้วยเลยไหม ขอบอกถึงพรรคร่วมเลยว่า ขอให้คิดถึงประเทศ อย่าคิดถึงตัวเองมากไป อย่าคิดเอาอะไรเกินขอบเขต โดยใช้ความรู้สึกและไม่ใช้ความรู้" นายชาญชัย กล่าว