นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มอบหมายนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ดำเนินการตอบโต้ทางการทูตต่อแถลงการณ์ของรัฐบาลกัมพูชาที่พาดพิงกระบวนยุติธรรมของไทย แต่ยืนยันว่าการตอบโต้ทางการทูตในครั้งนี้จะไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ แต่เป็นการแสดงท่าทีจากรัฐบาลไทยเท่านั้น
"เนื่องจากแถลงการณ์ของรัฐบาลกัมพูชามีส่วนพาดพิงกระบวนการยุติธรรมของเรา เชื่อว่ากระทบความรู้สึกของประชาชนพอสมควร ขณะนี้จึงมอบให้กระทรวงต่างประเทศดำเนินมาตรการให้กัมพูชารับทราบความรู้สึกของไทยที่มีการพาดพิงกระบวนการภายในของเรา ซึ่งจะเป็นกระบวนการตอบโต้ทางการทูต"นายกรัฐมนตรี กล่าว
ส่วนจะมีการเชิญทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยกลับกัมพูชา หรือปิดพรมแดนไทย-กัมพูชาหรือไม่นั้น จะให้กระทรวงการต่างประเทศทำหน้าที่ชี้แจง
นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ขณะนี้การค้าขายตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงดำเนินไปตามปกติ แต่ในส่วนความร่วมมือที่รัฐบาลไทยเคยให้ความช่วยเหลือกัมพูชาอาจจะต้องพิจารณาทบทวน แต่สิ่งแรกที่ต้องการให้รัฐบาลกัมพูชารับทราบคือ การชี้แจงกรณีที่พาดพิงกระบวนการยุติธรรมของไทยอย่างเป็นทางการก่อน
วานนี้(5 พ.ย.) สถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลกัมพูชา เผยแพร่แถลงการณ์ที่ออกโดยสำนักโฆษกรัฐบาลกัมพูชาว่ากษัตริย์ นโรดม สีหมุณี ได้ลงพระปรมาภิไธยประกาศแต่งตั้งพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชา และเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีฮุนเซนอย่างเป็นทางการแล้ว นอกจากนี้ ในแถลงการณ์ยังระบุด้วยว่า พ.ต.ท.ทักษิณสามารถเดินทางเข้าออกและอาศัยอยู่ในกัมพูชาได้อย่างอิสระ โดยกัมพูชาจะไม่ส่งตัวอดีตนายกฯกลับมายังประเทศไทยในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน