นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุจะควบคุมดูแลปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลไทย-กัมพูชา ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อความร่วมมือในระดับพหุภาคี ซึ่งเป็นการพูดกับนายยูกิโอะ ฮาโตยามะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ระหว่างการหารือระดับทวิภาคีในช่วงที่เดินทางไปร่วมประชุมผู้นำประเทศลุ่มน้ำโขงที่ประเทศญี่ปุ่น
"ไม่ได้พูดถึงสถานการณ์ทางการเมืองของไทย แต่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้สอบถามกรณีปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชาว่าจะมีผลกระทบอะไรหรือไม่ ซึ่งผมได้บอกกับท่านว่า จะไม่ให้ปัญหาดังกล่าวกระทบต่อความร่วมมือระดับพหุภาคี" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
สถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชาเริ่มตึงเครียดอีกครั้ง หลังรัฐบาลกัมพูชาประกาศแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจ และที่ปรึกษาส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีฮุนเซ็น และยืนยันที่จะไม่ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ให้กับไทยตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนหากได้รับการร้องขอ
โดยรัฐบาลไทยใช้มาตรการทางการทูตตอบโต้รัฐบาลกัมพูชา ด้วยการเรียกเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ กลับประเทศไทย, ทบทวนพันธกรณีต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับฝ่ายกัมพูชาในช่วงที่ผ่านมา และทบทวนความร่วมมือต่างๆ ที่รัฐบาลไทยกำลังดำเนินการกับกัมพูชา ขณะที่รัฐบาลกัมพูชาเองก็เรียกเอกอัครราชทูตกลับประเทศเช่นกัน
นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศเตรียมเสนอให้ที่ประชุม ครม.พิจารณายกเลิกบันทึกความเข้า(MoU) ระหว่างรัฐบาลไทย-กัมพูชาว่าด้วยการอ้างสิทธิในพื้นที่ทับซ้อนบริเวณอ่าวไทย ฉบับวันที่ 18 มิ.ย.44 ที่จัดทำขึ้นในรัฐบาลสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี