นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) กล่าวว่า วิปรัฐบาลเห็นด้วยกับที่ประชุมร่วมรัฐสภาเตรียมพิจารณาทบทวนเรื่องบันทึกการประชุมคณะกรรมการร่วมเขตแดนไทย-กัมพูชา(เจบีซี) รวม 3 ฉบับ พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการฯ ขึ้นมาศึกษารายละเอียดให้รอบคอบ โดยเฉพาะในเรื่อง MoU เมื่อปี 2544 เกี่ยวกับผลประโยชน์พื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ซึ่งจะขอขยายเวลาพิจารณาจากเดิม 15 วัน ออกไปเป็น 90 วัน
"เรื่องนี้อยากให้ฝ่ายค้านได้อภิปราย ซึ่งรัฐบาลและรัฐมนตรีพร้อมที่จะชี้แจงเรื่องนี้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะนายกฯ พร้อมที่จะตอบคำถาม เพราะเรื่องนี้เกี่ยวกับกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ไปเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจให้กับสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ รู้ข้อมูลภายในและมีผลประโยชน์ร่วมกับประเทศกัมพูชา รัฐบาลจึงต้องรักษาผลประโยชน์ของประเทศ หากฝ่ายค้านยังไม่เคลียร์ก็สามารถตั้งกระทู้ถามสดเรื่องนี้ได้ เพราะรัฐบาลยินดีที่จะชี้แจง ส่วน ส.ว.เชื่อว่าไม่มีปัญหา ซึ่งเชื่อว่าวันนี้พรรคเพื่อไทยจะได้มีความชัดเจนว่าจะเลือกประโยชน์ของชาติหรือประโยชน์ของตน" นายชินวรณ์ กล่าว
ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ที่มีข้อสงสัยว่าหากจะยกเลิก MoU รัฐบาลจะต้องขอความเห็นจากสภาฯหรือไม่นั้น เรื่องนี้ไม่จำเป็นเพราะตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญปี 2550 ได้กำหนดให้ขอความเห็นชอบในเรื่องการทำสัญญาเท่านั้น ส่วนการยกเลิกสัญญานั้นไม่ได้มีบทบัญญัติไว้ ซึ่งรัฐบาลจะส่งเรื่องนี้ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไปเพื่อความชัดเจน
ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า การยกเลิก MoU จะไม่ทำให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง เพราะสัญญาดังกล่าวเป็นข้อตกลงในทวิภาคีที่ระบุชัดเจนว่าหากฝ่ายใดยกเลิกก็สามารถทำได้ตามอนุสัญญาเจนีวา อีกทั้งการพิจารณาเรื่องเจบีซีก็ยังไม่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาอยู่แล้วจึงไม่มีปัญหา นอกจากนี้รัฐบาลยืนยันว่าเราไม่มุ่งเน้นในเรื่องผลประโยชน์ของคน 2 คนที่มีประโยชน์ร่วมกัน แต่เราจะปฏิบัติทางการทูตเพื่อมุ่งเน้นผลประโยชน์ของคนในชาติ วันนี้การที่รัฐสภาแสดงท่าทีไม่เห็นชอบเจบีซีกับกัมพูชาเป็นการแสดงท่าทีชัดเจนว่าทุกฝ่ายเห็นด้วยกับรัฐบาล
ส่วนกรณีที่สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้เชิญ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปร่วมประชุมทีมเศรษฐกิจที่ประเทศกัมพูชานั้น นายชินวรณ์ กล่าวว่า หากมีการเชิญมาจริง เราก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดน เพราะที่ผ่านมายังไม่เคยมีรัฐมนตรีคนใดรับเป็นที่ปรึกษาให้กับต่างชาติและประชาชนไทยจะได้เห็นว่าใครทำเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง
"เราต้องแสดงวิธีการทางการทูตต่อไปเพื่อศักดิ์ศรีของคนไทยและประชาชนรู้สึกว่าประเทศกัมพูชาได้เข้ามาแทรกแซงการเมืองในประเทศ และขณะนี้คนไทยก็ได้ตื่นตัวในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งผมได้ยินข่าวมาว่าขณะนี้ได้มีการเรียกร้องไม่ให้คนไทยเข้าไปเล่นการพนันที่กัมพูชา ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลกัมพูชากับ พ.ต.ท.ทักษิณ จะพึ่งตระหนักในเรื่องนี้ " นายชินวรณ์ กล่าว
การที่สมเด็จฮุนเซนออกมาขู่ว่าหากไทยปิดพรมแดน จะสร้างความเสียหายให้กับธุรกิจของคนไทยเองนั้น นายชินวรณ์ กล่าวว่า รัฐบาลจะพิจารณามาตรการต่างๆ ที่จะตอบโต้กับกัมพูชาอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้กระทบกับคนไทย