นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ระบุกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ไทมส์ออนไลน์ครั้งล่าสุดเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมและไม่บังควร เป็นการก้าวล่วงต่อสถาบันเบื้องสูง ซึ่งสะท้อนถึงความอึดอัดที่ไม่สามารถโน้มน้าวหรือชี้นำสังคมได้เหมือนในอดีต
"คุณทักษิณใช้จังหวะเวลานี้ให้สัมภาษณ์ในลักษณะที่จาบจ้วง ไม่เป็นมงคล ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่ามีวัตถุประสงค์แอบแฝงหรือกำลังเคลื่อนไหวบางอย่างในลักษณะที่ไม่เหมาะสม"นายกษิต กล่าวกับผู้สื่อข่าว
รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ทางการจะชี้แจงข้อเท็จจริงให้สำนักข่าวต่างประเทศเข้าใจ เพราะไม่เช่นนั้นจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดและสร้างความเสียหายต่อสถาบันเบื้องสูง รวมทั้งให้สถานทูตไทยประจำประเทศต่างๆ ชี้แจงกรณีดังกล่าวด้วย ส่วนจะมีการดำเนินคดีอดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับหน่วยงานที่รับผิดชอบจะพิจารณาต่อไป
พร้อมกันนั้น ยังจะประสานอัยการสูงสุดเพื่อเตรียมขอให้ทางการกัมพูชาส่งตัวอดีตนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนเรียบร้อยแล้ว หลังมีรายงานข่าวว่าอดีตนายกรัฐมนตรีจะเดินทางมายังประเทศกัมพูชา แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ในขณะนี้
นอกจากนั้น ในวันพรุ่งนี้(10 พ.ย.)จะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณายกเลิก MOU ที่ทำไว้เมื่อปี 44 เรื่องพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทย-กัมพูชา ก่อนที่จะเสนอให้ที่ประชุมรัฐสภาพิจารณาต่อไป
รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ขณะนี้ดูเหมือนสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาจะเห็นความสำคัญของประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าความสัมพันธ์ของสองประเทศ และหวังว่าสมเด็จฮุนเซนจะทบทวนท่าทีใหม่
"ขอให้สมเด็จฮุนเซนเห็นความสำคัญระหว่างสองประเทศเป็นตัวตั้ง เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง เป็นเรื่องผลประโยชน์ของประเทศชาติ แต่ที่เห็นอยู่ดูเหมือนว่าจะรักในตัวคุณทักษิณมากกว่าความสัมพันธ์ของสองประเทศ" นายกษิต กล่าว
สำหรับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการที่รัฐบาลไทยใช้มาตรการตอบโต้ทางการทูตต่อทางการกัมพูชานั้น นายกษิต กล่าวว่า ยังไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจและการดำรงชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศ