นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) กล่าวถึงปัญหาองค์ประชุมไม่ครบส่งผลให้การประชุมล่มซ้ำซากว่า ขณะนี้ได้ขอให้วิปรัฐบาลทุกพรรคปรับเปลี่ยนวิธีการตรวจสอบองค์ประชุมของ ส.ส.ในแต่ละพรรค โดยจะให้แต่ละพรรคนับสมาชิกของตัวเองเป็นรายหัวก่อนที่จะมีการแสดงตนทุกครั้ง และให้วิปแต่ละพรรคใช้สัดส่วนวิป 1 คนต่อ ส.ส. 5 คน คอยตรวจสอบอีกครั้ง ซึ่งหากมีปัญหาคะแนนเสียงไม่ตรงกันก็จะสามารถตรวจสอบได้ เพื่อป้องการเกิดข้อครหา
"ฝ่ายค้านใช้เทคนิคช่วงเปลี่ยนวาระการประชุมเล่นเกมการเมืองเท่านั้น ทำให้วิปรัฐบาลต้องปรับเปลี่ยนวิธีการควบคุมเสียงองค์ประชุมใหม่ด้วยวิธีการดับเบิ้ลเช็ค" นายชินวรณ์ กล่าว
ประธานวิปรัฐบาล ยอมรับว่า ยังมีปัญหาเกี่ยวกับด้านอิเล็กทรอนิกส์อยู่บ้าง แต่อยากเรียกร้องไปยังพรรคเพื่อไทยว่าอย่าเล่นการเมืองมากเกินไป เพราะการพิจารณาข้อตกลงระหว่างประเทศเป็นเรื่องสำคัญและเป็นผลประโยชน์ของประเทศ ซึ่งตนเองไม่เห็นด้วยที่ไปกล่าวหาข้าราชการว่ารับเงินเพื่อดึงคะแนนเพิ่ม
"อยากให้ตรวจสอบข้อกล่าวหานี้อย่างจริงจัง ควรละอายและไม่ควรไปฟ้องร้องอะไรกัน และอย่าไปรังแกข้าราชการที่เป็นเด็ก เพราะเชื่อว่าคงไม่รู้เรื่อง และเราก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว" นายชินวรณ์ กล่าว
ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า วิปวุฒิสภาไม่สบายใจที่รัฐบาลและฝ่ายค้านใช้สภาเล่นเกมทางการเมืองมากจนเกินไป และไม่เห็นด้วยที่มีการกล่าวหาประธานในที่ประชุมและเจ้าหน้าที่ประพฤติตัวไม่เหมาะสม รวมทั้งกรณีที่นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ที่ไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ว่าทำหน้าที่ไม่เป็นกลาง
"นายกฯ ได้โทรศัพท์มาถึงผมเพื่อแสดงความห่วงใยกรณีที่รัฐสภาไม่สามารถลงนามในข้อตกลงพิธีสารเพิ่มเติมฉบับที่ 2 ภายใต้พิธีสารระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐบรูไน ซึ่งนายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีเกษตรฯ ไปรอที่จะลงนามอยู่ที่ประเทศบรูไน โดยนายกฯให้ผมโทรศัพท์ไปชี้แจงและพูดคุยกับรัฐมนตรีเกษตรฯ" นายชินวรณ์ กล่าว