พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี สมาชิกพรรคเพื่อไทย(พท.)นำพยานสำคัญ 2 คนในคดียุบพรรคไทยรักไทย(ทรท.) คือนายสุขสันต์ ชัยเทศ อดีตผู้อำนวยการพรรคพัฒนาชาติไทย และนายชวการ โตสวัสดิ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพัฒนาชาติไทย ร่วมแถลงข่าวถึงเบื้องหลังการยุบพรรคไทยรักไทย โดยระบุว่าต้องการคืนความเป็นธรรมให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ตลอดจนอดีตผู้บริหารพรรคทั้ง 111 คน ที่โดนตัดสิทธิทางการเมือง
พล.อ.พัลลภ กล่าวว่า พยานทั้ง 2 คนได้ให้การเป็นเท็จต่อศาลรัฐธรรมนูญจนนำไปสู่การยุบพรรคไทยรักไทยในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งวันนี้พยานทั้ง 2 คนรู้สึกสำนึกผิดและขอเปิดเผยความจริงให้คนไทยได้ทราบ โดยไม่กลัวหากจะต้องถูกจำคุกหรือแม้กระทั่งถูกเอาชีวิต
พล.ต.ต.มณเฑียร ประทีปะวณิช สมาชิกพรรค พท.ที่ร่วมในการแถลงข่าว กล่าวว่า จากการที่มีการยุบสภาและจัดการเลือกตั้งเมื่อเดือนเม.ย.49 พยานทั้ง 2 คนได้ให้การต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญว่า พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ได้จ่ายเงินเพื่อขอให้พรรคพัฒนาชาติไทยลงเลือกตั้งแข่งกับพรรคไทยรักไทย
พยานทั้ง 2 คนได้ทำผิดกฎหมายด้วยการแก้ไขฐานข้อมูลของ กกต.ในกรณีมีชื่อในภูมิลำเนาที่ลงสมัครเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 90 วัน จนถูกพรรคประชาธิปัตย์จับได้และมีการแจ้งความดำเนินคดี จากนั้นพรรคประชาธิปัตย์ได้ติดต่อชักจูงและจ้างวานพยานทั้ง 2 คนเพื่อให้การเท็จว่าพรรคไทยรักไทยจ้างให้พรรคพัฒนาชาติไทยลงสมัครเป็นคู่แข่งพรรคไทยรักไทย เพื่อแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดีในข้อหาแก้ฐานข้อมูล กกต.
"เวลานั้นนายสุเทพ เทือกสุบรรณ, นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ,นายถาวร เสนเนียม เป็นผู้วางแผนเพื่อล้มพรรคไทยรักไทย และข่มขู่ให้พยานทั้ง 2 ร่วมงานนี้ จนทั้ง 2 ไม่สามารถทนได้ จึงต้องรับงาน แต่ขณะนี้ทั้ง 2 คนสำนึกผิด และต่อมาได้ถูก ป.ป.ช. ดำเนินคดี เขาจึงรู้ว่าถูกหักหลัง จึงมาหาผมเพื่อขอโทษประชาชนและกรรมการบริหารทั้ง 111 คน" พล.ต.ต.มณเฑียร กล่าว