นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง นัดชุมนุมใหญ่อีกครั้งในช่วงวันที่ 29 พ.ย.-2 ธ.ค.นี้ แต่จะเว้นช่วงวันที่ 3-5 ธ.ค.เนื่องจากมีการจัดงานวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯ โดยตั้งเป้าระดมคนมาร่วมชุมนุมให้ได้ 1 ล้านคนเพื่อล้มรัฐบาล และไม่สนใจว่ารัฐบาลจะประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักรหรือไม่
"ตุ๊กตาที่วางไว้เบื้องต้นคือจะนัดชุมนุมใหญ่ยกแรกในวันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน และจะเว้นวันที่ 3-5 ธันวาคม เชื่อว่าน่าจะจบได้ก่อนวันที่ 3 ธันวาคม เพราะการนัดชุมนุมใหญ่ครั้งนี้ตั้งเป้าผู้มาร่วมชุมนุมไว้ที่ 1 ล้านคน เชื่อว่ารัฐบาลนี้จะอยู่ได้ไม่ถึงวันที่ 4 ธันวาคม ดังนั้นปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ยังไงก็ต้องแตกหัก รัฐบาลจะใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือกฎอัยการศึกก็เชิญ" นายจตุพร กล่าว
แกนนำกลุ่ม นปช.กล่าวว่า หากช่วงที่นัดชุมนุมสามารถระดมคนมาชุมนุมได้ตามเป้า 1 ล้านคนในวันใดก็เชื่อว่าจะสามารถล้มรัฐบาลได้ แต่หากยังปิดเกมไม่ได้ก็จะนัดชุมนุมใหม่อีกหลังวันที่ 5 ธ.ค.52 และตนเองมั่นใจว่าจะสามารถล้มรัฐบาลได้เพราะขณะนี้รัฐบาลมีปัญหาทุจริตทุกกระทรวง การซื้ออาวุธ ล็อบบี้ยิสต์ รถเมล์เอ็นจีวี ขณะเดียวกันราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ ทางออกของรัฐบาลต้องยุบสภาคืนอำนาจให้กับประชาชน ถ้ารัฐบาลได้คะแนนนิยมสูงแบบที่โพลล์สำรวจออกมาจริง พรรคประชาธิปัตย์ได้ตั้งรัฐบาลพรรคเดียวแน่นอน เสื้อแดงก็จะยุติการชุมนุม
"มันต้องไปกันซักข้าง เขาไม่ควรได้รับการฉลองปีใหม่...ครั้งนี้เราต้องการทำสงครามสั้นที่สุด เราจะไม่เข้าทำเนียบรัฐบาลหรือสถานที่ราชการ จะใช้สันติวิธี" นายจตุพร กล่าว
นายจตุพร กล่าวว่า บรรพบุรุษของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นคนเวียดนาม และตนเองไม่ได้ปลุกกระแสคลั่งชาติ แต่เห็นว่าลูกหลานชาวเวียดนามยังเป็นนายกรัฐมนตรีประเทศนี้ได้
ส่วนการชุมนุมครั้งนี้ยึดสันติวิธี ไม่มีแผนดาวกระจาย และจะไม่ยอมเจ็บตัวฟรีเหมือนที่ผ่านมา เพราะรู้แล้วว่าใครทำอะไร ตรงไหน ขณะนี้รอเพียงการประชุมของแกนนำภายในสัปดาห์นี้ก่อนที่จะแถลงวันชุมนุมอย่างเป็นทางการอีกครั้ง