องค์กรเพื่อความร่วมมือและพัฒนาการทางเศรษฐกิจหรือ OECD ได้เรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นทบทวนเรื่องวัตถุประสงค์และขอบเขตของคำมั่นสัญญาที่จะจัดหางบประมาณให้กับครอบครัวที่มีบุตรในช่วงต้นปีงบประมาณ 2553 พร้อมกับแนะนำให้รัฐบาลญี่ปุ่นนำเงินภาษีไปใช้กับโครงการศึกษาในโรงเรียนอนุบาลและการเลี้ยงดูเด็กมากกว่าที่จะจัดหางบช่วยเหลือเดือนละ 13,000 เยนในปีงบประมาณ 2553 และ 26,000 เยนตั้งแต่ปีงบประมาณ 2554 สำหรับเด็กโรงเรียนมัธยมหรือต่ำกว่านั้น
แองเจล เกอเรีย เลขาธิการ OECD กล่าวว่า การโยกทรัพยากรมาให้กับเด็กที่มีอายุ 5 ปีหรือต่ำกว่านั้น โดยเฉพาะงบประมาณในด้านการเลี้ยงดูและการศึกษานั้น จะทำประโยชน์ได้มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการเพิ่มโอกาสให้กับแรงงานหญิงและอัตราการเกิดของประชากร โดยประเทศที่มั่งคั่งนั้น จะมีระบบการดูแลเด็กที่เพียงพอ และทำให้ผู้หญิงในประเทศกลุ่มนี้มีลูกมากขึ้นแม้ว่าจะเป็นผู้หญิงทำงาน การเพิ่มงบประมาณให้กับการดูแลเด็กและการศึกษาในระดับอนุบาลจะมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน
เลขาธิการ OECD กล่าวต่อไปว่า รัฐบาลญี่ปุ่นได้ใช้งบประมาณค่อนข้างมากกับเด็กที่มีอายุ 10 ปีเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้วอื่นๆ นอกจากนี้ คุณภาพการศึกษาจะดีขึ้นได้หากรัฐบาลให้ความสำคัญกับการศึกษาระดับอนุบางมากข้น โดยผลการศึกษาหลายสำนักชี้ว่า ผลที่ได้จากการลงทุนในการศึกษาของเด็กเล็กนั้นดีขึ้นกว่าเดิมมากนัก
ทั้งนี้ การแสดงความเห็นของเลขาธิการ OECD เกิดขึ้นในช่วงที่รัฐบาลญี่ปุ่นซึ่งอยู่ภายใต้การนำของพรรคดีพีเจมองว่า การระดมทุนเพื่อใช้มาตรการทางเศรษฐกิจที่สำคัญๆนั้นเรื่องที่ลำบากในปีงบประมาณ 2553 หากจะระดมทุนโดยไม่มีหนี้สินติดมาด้วย สำนักข่าวเกียวโดรายงาน