นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มเสื้อแดง กางยุทธศาสตร์เคลื่อนไหวชุมนุม 28 พ.ย.-2 ธ.ค.กดดันรัฐบาลยุบสภา จัดกิจกรรมนำกลุ่มผู้ชุมนุมเดินขบวนขับไล่รัฐบาลไปตามถนนสายสำคัญๆ ในกรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่อง
กลุ่ม นปช.จะนัดรวมตัวกันตั้งแต่ช่วงเที่ยงของวันที่ 28 พ.ย.บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยจะปักหลักค้างคืน หลังจากนั้นในวันที่ 29 พ.ย.เมื่อพิธีซ้อมสวนสนามเสร็จเรียบร้อยแล้ว กลุ่มผู้ชุมนุมจะเดินเท้าไปปักหลักค้างคืนต่อที่บริเวณสี่แยกสวนมิสกวัน และในวันที่ 30 พ.ย.จะแยกย้ายเดินขบวนขับไล่รัฐบาลไปตามถนนสายสำคัญๆ ทั่วกรุงเทพฯ ก่อนจะกลับมารวบตัวกันเพื่อชุมนุมร่วมกันตามเดิมที่บริเวณสี่แยกสวนมิสกวัน โดยกลุ่มผู้ชุมนุมจะแยกย้ายกันกลับบ้านในช่วงเช้ามืดวันที่ 2 ธ.ค.
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่ม นปช.ประกาศว่าเป้าหมายการชุมนุมครั้งนี้ต้องถึงขั้นแตกหัก โค่นล้มรัฐบาลให้ได้ก่อนวันที่ 3 ธ.ค.ตั้งเป้าจะระดมคนมาร่วมชุมนุมครั้งนี้ 1 ล้านคน โดยไม่สนใจว่ารัฐบาลจะนำ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร มาประกาศใช้เพื่อควบคุมการชุมนุมหรือไม่
ส่วนประเด็นที่อ้างเป็นเหตุผลในการชุมนุมครั้งนี้ ได้แก่ ปัญหาทุจริตในกระทรวงต่างๆ ได้แก่ โครงการจัดซื้ออาวุธ โครงการรถเมล์เอ็นจีวี และ ปัญหาราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ
โฆษกกลุ่ม นปช. ยืนยันว่า การชุมนุมในครั้งนี้จะเป็นไปด้วยสันติวิธี โดยสงบและปราศจากอาวุธ หากข้อเรียกร้องครั้งนี้ยังไม่ได้รับการตอบสนองจากรัฐบาล กลุ่ม นปช.จะกลับชุมนุมอีกครั้งหลังเสร็จสิ้นงานเฉลิมพระชนมพรรษาฯ และจะปักหลักยืดเยื้อจนกว่าจะได้รับชัยชนะ