In Focusโอบามาปิดฉากทัวร์เอเชีย ตอกย้ำบทบาทพี่ใหญ่จีน พี่รองญี่ปุ่น น้องเล็กเกาหลีใต้

ข่าวต่างประเทศ Friday November 20, 2009 10:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

การเดินสายเยือนเอเชียของประธานาธิบดีบารัค โอบามา เมื่อวันที่ 12-19 พฤศจิกายนที่ผ่านมานั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่าจุดเด่นของทริปนี้อยู่ที่พี่เบิ้มอย่างจีน การที่ผู้นำของสหรัฐเดินทางเยือนจีนครั้งนี้ ตอกย้ำให้เห็นถึงบทบาทผู้นำของจีนในเวทีโลกมากขึ้น ดังจะเห็นได้จากคณะผู้แทนที่ร่วมเดินทางมากับผู้นำสหรัฐ ล้วนเป็นระดับหัวกะทิในรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นนางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ และนายแกรี ล็อก รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ และรอน เคิร์ก ผู้แทนการค้าสหรัฐ

จีน "พี่ใหญ่" ผงาดเทียบรัศมี

การที่สหรัฐต้องให้ความสำคัญกับจีนมากเป็นพิเศษนั้น คงจะปฏิเสธไม่ได้ถึงอิทธิพลที่มีมากขึ้นของจีน สหรัฐต้องการความช่วยเหลือจากจีนเพื่อช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ตั้งแต่ปัญหาเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เกาหลีเหนือ และอิหร่าน

นักธุรกิจในแวดวงชิปปิ้งของจีนมองว่า วิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทำให้สหรัฐต้องการความร่วมมือของจีนในหลายด้าน ก่อนหน้านี้ เวลาที่ผู้นำสหรัฐเดินทางเยือนจีน มักจะมาพร้อมกับทัศนคติที่เย่อหยิ่ง แต่ประธานาธิบดีโอบามานั้นแตกต่างกับผู้นำคนก่อนๆ เขาเดินทางมาจีนเพราะต้องการความช่วยเหลือจากเรา

หวัง เซียงผิน นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจีนกล่าวว่า หลังจากที่จีนเป็นเจ้าภาพการแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิก และจัดขบวนพาเหรดในโอกาสครบรอบ 60 ปีการสถาปนาประเทศนั้น ชาวต่างชาติก็ได้เห็นถึงความยิ่งใหญ่และอำนาจของจีน

นอกจากนี้ นายหวังยังมองในมุมเดียวกันกับนักธุรกิจชิปปิ้งที่ว่า ท่าทีของโอบามานั้นอ่อนลงกว่าท่าทีของประธานาธิบดีบุช และโอบามาก็หวังว่าจะสร้างความสัมพันธ์อันดีกับจีน ทั้งในเรื่องการค้า การทูต และความร่วมมือ

ทางด้านสื่อของจีนเองก็รายงานในด้านบวกเรื่องความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นขึ้นระหว่างจีนและสหรัฐ โดยไม่ได้ลงลึกถึงประเด็นค่าเงินหยวน และสิทธิมนุษยชน นสพ.ไชน่า เดลี่ ได้นำเสนอในบทบรรณาธิการเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า ในขณะที่จีนแสดงความมุ่งมั่นที่จะสร้างโลกซึ่งสมัครสมานกลมเกลียวกันและเต็มไปด้วยสันติภาพ ความรุ่งเรือง สหรัฐก็ขานรับกับบทบาทของจีนที่มีต่อสถานการณ์โลก

โอบามากล่าวระหว่างการเดินทางเยือนจีนว่า สหรัฐไม่ได้ต้องการที่จะควบคุมจีน ในทางกลับกัน จีนซึ่งมีความแข็งแกร่งและรุ่งเรืองสามารถเป็นเสาหลักของความแข็งแกร่งของชุมชนในภูมิภาคนี้

วิคเตอร์ เกา ที่ปรึกษาด้านนโยบายของจีนและอดีตล่ามของประธานาธิบดีเติ้ง เสี่ยวผิง มองว่า หากผู้นำของจีนและสหรัฐไม่ได้มาพบหน้าค่าตากันแล้ว โลกแห่งสันติและเสถียรภาพก็คงจะไม่เกิดขึ้น การฟื้นฟูเศรษฐกิจโลก การรับมือกับปัญหาโลกร้อน ล้วนเป็นเรื่องหนักหนาสาหัสสำหรับผู้นำสหรัฐ หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากจีน

โอบามาฝากความหวังให้จีนช่วยปล่อยค่าเงินหยวน

ประเด็นเรื่องเงินหยวนถือเป็นเรื่องที่สหรัฐอยากฝากฝังให้พี่ใหญ่อย่างจีนปรับเปลี่ยนนโยบายมาโดยตลอด การเยือนปักกิ่งครั้งนี้ โอบามา จึงได้ย้ำกับประธานาธิบดีหู จิ่นเทาของจีนในระหว่างการประชุมร่วมกันเมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่กรุงปักกิ่งถึงความจำเป็นในการดูแลให้มูลค่าของเงินหยวนตั้งอยู่บนพื้นฐานของตลาดมากกว่าเดิม ซึ่งการที่จะดำเนินการเช่นนั้นได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ ซึ่งถือเป็นการให้ความร่วมมือที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับการสร้างสมดุลให้กับเศรษฐกิจโลก

จอน ฮันท์สแมน เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงปักกิ่ง เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา กล่าวกับผู้นำจีนว่าสหรัฐอยากเห็นเงินหยวนเคลื่อนไหวอย่างยืดหยุ่นกว่านี้ในปีหน้า

เงินหยวนของจีนตรึงอยู่ที่ระดับ 6.83 หยวน/ดอลลาร์ มาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2551 ซึ่งการกระทำดังกล่าวทำให้จีนกลายเป็นประเทศที่ถือพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐมากที่สุดที่ระดับ 7.971 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนสิงหาคม หรือเพิ่มขึ้น 10% จากวันที่ 1 มกราคม 2552

แนวร่วมปล่อยก๊าซมลพิษ

สำหรับประเด็นเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศนั้น คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า สหรัฐและจีนล้วนเป็นตัวการสำคัญในการปล่อยก๊าซมลพิษ แถมยังไม่ยอมรับสนธิสัญญาเกียวโตเหมือนกันอีกด้วย ทุกฝ่ายจึงจ้องตาเป็นมันว่า สหรัฐและจีนจะรับบทเป็นผู้นำในการควบคุมปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกหรือไม่เท่านั้น และยังดูด้วยว่าทั้ง 2 ประเทศจะมีความรับผิดชอบในเรื่องนี้หรือไม่

แต่ดูเหมือนจะมีเค้าลางออกมาให้เห็นกันแล้ว เมื่อโอบามากล่าวถึงการประชุมเรื่องปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิกาศที่จะจัดขึ้นในเมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์กในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ว่า เป้าหมายของการประชุมคือการหาข้อตกลงที่สามารถนำไปปฏิบัติจริงได้ทันที ขณะที่ผู้นำจีนก็เสริมว่า จะช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้ เรียกได้ว่างานนี้สหรัฐและจีนลงเรือลำเดียวกัน

ญี่ปุ่น "พี่คนรอง" ที่ไม่ถูกลืม

กล่าวถึงบทบาทของพี่ใหญ่อย่างจีนไปแล้ว มาดูพี่รองอย่างญี่ปุ่นกันบ้าง โดยหลายฝ่ายมองว่าญี่ปุ่นยังไม่สามารถยื่นมือให้ความช่วยเหลือในการผลักดันให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวได้มากเท่าไรนัก เพราะแค่จะพยุงเศรษฐกิจของตัวเองให้ห่างจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยในระยะยาวต่อไปได้ก็แทบจะแย่อยู่แล้ว นอกจากนี้ ญี่ปุ่น ซึ่งถึงแม้จะเป็นผู้ถือตราสารหนี้สหรัฐรายใหญ่อันดับ 2 รองจากจีน แต่ก็ยังมีปัญหาในเรื่องหนี้สิน ด้วยเหตุนี้ญี่ปุ่นจึงเทียบไม่ได้ ณ จุดนี้

อย่างไรก็ดี สหรัฐก็ยังให้เกียรติกับพี่รองอย่างญี่ปุ่นในฐานะพันธมิตรที่รักใคร่กันมานาน ด้วยการเลือกที่จะเดินทางเยือนญี่ปุ่นก่อนเป็นประเทศแรก และไม่วายโปรยยาหอมในระหว่างการกล่าวปราศรัยเรื่องนโยบายของสหรัฐที่มีต่อเอเชียว่า ญี่ปุ่นเปรียบเสมือนศูนย์กลางของการดำเนินการใดๆของสหรัฐในเอเชียแปซิฟิก แม้ว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ในเรื่องของการย้ายฐานทัพของสหรัฐในประเทศญี่ปุ่น

มารยาทงามท่ามกลางเสียงชื่นชมในญี่ปุ่น

โอบามาได้รับการชื่นชมจากหลายฝ่าย กับภาพการโค้งคำนับสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น แม้ว่าจะถูกวิจารณ์อย่างหนักจากพวกอนุรักษนิยมในสหรัฐฯ ว่าก้มตัวคำนับสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่นมากเกินไปจนดูเหมือนการก้มกราบผู้นำต่างชาติ เรื่องนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านมารยาทของญี่ปุ่นและนักวิเคราะห์หลายประเทศกลับชื่นชมผู้นำสหรัฐว่าแสดงความเคารพได้อย่างมีมารยาทเหมาะสมและงดงาม

เกาหลีใต้ "น้องเล็ก" ที่พึ่งพาได้

โอบามายังคงสานต่อนโยบายปราบหัวดื้อนิวเคลียร์ด้วยวิธีการทางการทูตต่อไป การเยี่ยมน้องเล็กอย่างเกาหลีใต้ครั้งนี้ ผู้นำสหรัฐสามารถรุกในประเด็นเกาหลีเหนือได้ ด้วยการเปิดเผยถึงเรื่องการส่งนายสตีเฟน บอสเวิร์ท ผู้แทนพิเศษด้านกิจการเกาหลีเหนือของสหรัฐไปเจรจาโดยตรงกับเกาหลีเหนือเป็นครั้งแรกในวันที่ 8 ธ.ค.นี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะดึงเกาหลีเหนือกลับเข้าสู่การเจรจา 6 ฝ่ายว่าด้วยการยกเลิกโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ หลังจากที่ต้องเดินเกมผ่านทางพันธมิตรของเกาหลีเหนืออย่างจีนมาหลายครั้ง

นอกจากประเด็นเรื่องเกาหลีเหนือแล้ว โอบามา และ ประธานาธิบดีลี เมียงบัค ของเกาหลีใต้ยังได้หารือในเรื่องอื่น โดยประธานาธิบดีเกาหลีใต้กล่าวถึงเรื่องข้อตกลงการค้าเสรีระดับทวิภาคีของ 2 ประเทศว่า เกาหลีใต้อาจจะเจรจากับสหรัฐอีกครั้งหากว่าจุดยืนการค้าในอุตสาหกรรมยานยนต์ของ 2 ฝ่ายเดินไปในทิศทางเดียวกัน

อย่างไรก็ดี การดึงเกาหลีเหนือกลับเข้าร่วมการเจรจาอีกครั้งนั้น สหรัฐก็ต้องพึ่งพาพี่เบิ้มอย่างจีนด้วยอยู่ดี เพราะจีนนั้นสนิทสนมกับเกาหลีเหนือ

การเดินสายของประธานาธิบดีบารัค โอบามาในครั้งนี้ นอกจากสหรัฐจะได้แสดงให้เห็นถึงจุดยืนในด้านต่างๆที่มีต่อเอเชียแล้ว จีนเองก็ได้เปล่งรัศมีของความเป็นพี่เบิ้มอีกวาระหนึ่งเช่นกัน ขณะที่ทั้งญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ถึงแม้ไม่ได้ทำตัวเด่นเกินหน้าเกินตา แต่ก็ไม่ได้ถูกเมินหรือมองข้าม จึงนับได้ว่า รวมแล้วทั้ง 3 ประเทศสามารถเป็นที่เชิดหน้าชูตาหรือเป็นตัวแทนของพี่พ้องน้องเพื่อนในเอเชียบนเวทีโลกได้อย่างไม่น้อยหน้าภูมิภาคอื่นใด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ