โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุมีความเป็นไปได้ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะใช้โอกาสที่เดินทางไปเยือนรัฐกาตาร์ชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับการติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมาดำเนินคดี หลังจากมีการใช้ประเทศในตะวันออกกลางเป็นฐานเคลื่อนไหวทางการเมือง พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากรัฐบาลกาตาร์ให้เป็นคนกลางชี้แจงทำความเข้าใจให้กับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค โดยเฉพาะสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
"นายกรัฐมนตรีจะถือโอกาสที่พบกับผู้นำกาตาร์ส่งต่อจุดยืนของเราไปยังตะวันออกกลาง และหลังจากการไปเยือนครั้งนี้เชื่อว่าบรรยากาศระหว่างเรากับทางยูเออี(สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์)น่าจะดีขึ้น"นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเตรียมนำคณะเดินทางไปเชื่อมความสัมพันธ์กับรัฐกาตาร์ ระหว่างวันที่ 24-26 พ.ย.นี้
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ห่วงจะว่าอดีตนายกรัฐมนตรีใช้ความสัมพันธ์ที่มีกับประเทศยูเออีดิสเครดิตรัฐบาลไทย เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในกรณีประเทศกัมพูชา เพราะถือว่ารัฐบาลเดินทางไปทำงานเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ แต่ยอมรับว่าปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชาเป็นบทเรียนให้รัฐบาลเพิ่มความระมัดระวังและเตรียมพร้อมมากขึ้นในกรณีที่จะเดินทางไปเยือนประเทศต่างๆ
ส่วนความคืบหน้าคดีของนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทยที่ถูกทางการกัมพูชาจับกุมตัวไว้นั้น โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้สามารถหาทนายความได้แล้ว ซึ่งจะมีการยื่นเรื่องขอประกันตัวในสัปดาห์หน้า แต่ตามกระบวนการทางกฎหมายของประเทศกัมพูชาอาจใช้เวลาถึง 10 วัน และหวังว่าความสัมพันธ์ที่ดีของทั้งสองประเทศจะช่วยให้ไม่เกิดผลกระทบเรื่องการลงทุนของบริษัท กัมพูชา แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิส(CATS)
"จะยื่นประกันตัวในสัปดาห์หน้า แต่ตามกฎหมายของกัมพูชาต้องใช้เวลาถึง 10 วันจึงจะพิจารณา" นายปณิธาน กล่าว
สำหรับการประชุมคณะกรรมการร่วมชายแดน(JCB)ไทย-กัมพูชาคงไม่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ เพราะเป็นเรื่องของความร่วมมือเกี่ยวกับแนวชายแดนของทั้งสองประเทศ