กรุงเทพโพลล์ เผยคนกรุงเทพฯ และปริมณฑลมั่นใจรัฐบาลจะสามารถดูแลการนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดงในช่วงปลายเดือน พ.ย.ให้อยู่ในความสงบเรียบร้อยได้ โดยไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทางการเมือง แต่มองสถานการณ์การเมืองในปีหน้าจะเพิ่มความรุนแรงขึ้น
"ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 57.8 เชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ โดยไม่เกิดความสูญเสียและไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทางการเมือง" เอกสารเผยแพร่ ระบุ
สำหรับเป้าหมายการชุมนุมที่แท้จริงนั้น ประชาชน 36% เห็นว่ามีเป้าหมายเพื่อให้มีการยุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่ อีก 24% เห็นว่า มีเป้าหมายเพื่อหวังกดดันให้นายกฯ อภิสิทธิ์ ลาออก และ 11.2% เห็นว่ามีเป้าหมายเพื่อหวังผลในคดียึดทรัพย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ
ขณะที่มุมมองต่อแนวโน้มสถานการณ์การเมืองในปี 53 ประชาชนส่วนใหญ่ 67.3% เชื่อว่าจะร้อนแรงกว่าปี 52 โดยในจำนวนนี้ 19.6% เชื่อว่าเหตุการณ์จะรุนแรงถึงขั้นสงครามกลางเมือง ขณะที่ 47.7% เชื่อว่าคงไม่ถึงขั้นนั้น โดยทางออกที่เหมาะสมกรณีเกิดเหตุการณ์รุนแรงบานปลายถึงขั้นนองเลือดนั้น ประชาชน 73.1% เห็นว่าควรแก้ปัญหาภายใต้กรอบประชาธิปไตย แต่อีก 14.8% สนับสนุนการทำรัฐประหาร
กรุงแทพโพลล์ ระบุว่า ประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่าไม่ว่าจะเป็นคนเสื้อแดงหรือเสื้อเหลืองก็เป็นคนไทยเหมือนกัน สามารถมีความเห็นต่างกันได้แต่ก็ไม่ควรแตกแยก ควรแสดงออกโดยยึดหลักไม่ใช้ความรุนแรง แต่ยังไม่แน่ใจว่าปัญหาการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายทางการเมืองของไทยจะสิ้นสุดลงเมื่อใด อย่างไรก็ตาม ประชาชนราว 30% เชื่อว่าปัญหาจะสิ้นสุดลงภายใน 1-3 ปี
และหากเปรียบเทียบฐานเสียงสนับสนุนของประชาชนที่มีต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กรณีที่มีการเลือกตั้งในปี 53 พบว่า 30.1% สนับสนุนนายอภิสิทธิ์ อีก 24.6% สนับสนุน พ.ต.ท. ทักษิณ แต่ประชาชนส่วนใหญ่ 45.3% บอกว่าไม่สนับสนุนทั้งสองฝ่ายและยังไม่ตัดสินใจ
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ(กรุงเทพโพลล์) ได้สำรวจความคิดเห็นจากประชาชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑลจำนวน 1,121 คน ระหว่างวันที่ 21-22 พ.ย.ที่ผ่านมา